บูรพาไม่แพ้ใยแพ้เพลิงพิศวาส
มหาเวทย์ดูดดาวใยมิอาจดูดกลืนความพยาบาท
บทที่ 56: อุปกรณ์การกลั่นยาราคาแพง
เดอะแพนด้าทีม ไก่ต้มน้ำซุบ
และ แมวหลับ แปล
พนักงานร้านสองคนได้แต่ยืนตะลึงมอง โม่บ่อกี้ และ เฉินเหลียน ทั้งสองกินอย่างมูมมามบนโต๊ะของพวกเขาเค็มไปด้วยจานที่กองสุมกัน
สายตาของพนักงานร้านเปลี่ยนจากตกตะลึงเป็นเคารพนับถือ ขณะที่พวกเขากำลังจะปลีกตัวไปยังต้องเหลือบตามองมาที่
โม่บ่อกี้ และ เฉินเหลียน
พนักงานร้านเหล่านั้น เคยพบกับผู้ชายที่หิวโหยและกินจุมากๆมาแล้ว แต่ผู้หญิงที่หิวโหยและกินจุได้มากขนาดนี้พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อน
นางไม่เพียงแต่แค่กินจุเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่าคือ นางยังมีความงดงามที่พนักงานร้านไม่เคยเห็นมาก่อน
แต่สตรีที่งดงามผู้นี้กำลังสวาปามอาหารในถ้วยชามบนโต๊ะลงไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่พวกเขาเคยคิดไว้
"ศิษพี่หญิงเฉิน
ตอนนี้ท่านคงอิ่มแล้ว ข้าต้องขอตัวไปทำงานธุระอย่างก่อน" โม่บ่อกี้ ต้องการให้เฉินเหลียนรีบกลับไป ก่อนที่เขาจะไปซื้อสมุนไพรและอุปกรณ์การกลั่นยา
เฉินเหลียน ยังไม่ไว้ใจ โม่บ่อกี้นัก ตอนที่นางโต้เถียงกับเขา แต่หลังจากรับประทานอาหารร่วมกันและพูดคุยกันเกี่ยวกับการฝึกฝนเป็นเวลานาน
นางจึงรู้สึกสนิทสนมคุ้นเคยกับเขามากขึ้น เฉินเหลียน จึงปล่อยวางความไม่สบายใจของนางทิ้งไป
"ถ้ากลับไปที่โรงเตี๊ยมข้าก็ไม่มีอะไรทำอยู่ดี
แล้วข้าก็กำลังวางแผนที่จะไปซื้อของสักหน่อย เจ้าจะซื้ออะไรล่ะ บางทีข้าอาจจะช่วยเจ้าได้บ้าง"
เมื่อเป็นแบบนี้เขาคงจะตัดความน่ารำคาญนี้ไปไม่ได้ โม่บ่อกี้ จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะบอกแผนงานของเขา "ข้าตั้งใจจะไปซื้ออุปกรณ์เพื่อการกลั่นยา
แล้วท่านจะตามข้าไปด้วยทำไม"
"เจ้ากำลังจะซื้อเตายา
คนที่ยังไม่ได้เริ่มฝึกฝน จะซื้อเตาหลอมไปทำไม" เฉินเหลียน
ถามด้วยเสียงแปลกใจ
โม่บ่อกี้ อธิบายว่า "ข้าไม่ได้ไปซื้อเตาหลอม เพียงแต่จะไปหาอุปกรณ์ทั่วไปสำหรับการกลั่นยาเพื่อทดลองเสี่ยงโชคของข้าบนวิถีทางของโรงกลั่นยา
เจ้าคงไม่รู้ถึงความฝืดเคืองของข้าในการฝึกฝน ถ้าข้าสามารถกลายเป็นผู้ผลิตยา แม้ว่าข้าจะล้มเหลวในการฝึกฝนข้าก็ยังสามารถที่จะหาเลี้ยงชีพได้"
เฉินเหลียน พยักหน้าด้วยความเห็นอกเห็นใจ "เจ้าไม่ผิดหรอก แต่ไม่มีอนาคตสำหรับยากลั่น
ถ้ามีบางอย่างที่คุ้มค่าที่จะเรียนรู้ ก็จะเป็นทักษะของ โอสถทิพย์"
"ท่านจะสอนวิชาการสร้างโอสถทิพย์ให้ข้าหรือ
ถ้าท่านยินดีที่จะสอนข้า ข้าจะได้เลิกสนใจเรื่องการกลั่นยา" โม่บ่อกี้ แค่นเสียง
สักครุ่หนึ่ง เฉินเหลียนจึงพูดออกมาช้าๆว่า "ต้องใช้ทุนมากเหลือเกินหากจะเป็นผู้กลั่นโอสถทิพย์
ในเมื่อเจ้าไม่อาจจะฝึกฝนวิชาได้ เจ้าอาจจจะเรียนการกลั่นยาได้อย่างยอดเยี่ยมก็ได้"
นางจะรู้ได้อย่างไรว่าการเรียนวิธีกลั่นโอสถทิพย์ยากเย็นแค่ไหน ในเมื่อนางไม่ใช่พ่อของโอสถทิพย์
เมื่อรุ้ว่าข้อเสนอของนางขาดน้ำหนัก เฉินเหลียน จึงพูดเสริมขึ้นว่า "ในเขต เมืองเฉิงลู่ โอสถศาลาชิงเหอ
มีเตาหลอมที่ดีที่สุด ไม่เพียงแต่เป็นยาที่มีระดับสูง แต่พวกเขายังทำให้เตาผลิตยาที่มีคุณภาพสูงสุด
แต่คำแนะนำของข้าคือให้ไปที่ เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ถึงแม้ว่าเตาของพวกเขาจะไม่ดีเท่าที่
โอสถศาลาชิงเหอ แต่อุปกรณ์การกลั่นยาของพวกเขานั้นดีที่สุดในทั้ง จักรวรรดิ์ชิงเหอ"
"ไปที่
เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ กันเถอะ" โม่บ่อกี้พูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เขาคงยังไม่ได้กลั่นยาในตอนนี้ และ เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ก็ถือว่าดีมาก
…
"ไม่ทราบว่าวันนี้ท่านต้องการสิ่งใด
ข้าจะช่วยท่านหาสินค้าที่ดีที่สุดในราคาที่ถูกที่สุดให้" โม่บ่อกี้พบกับพนักงานขายที่เคย ตำราพื้นฐานของการเพาะปลูก ให้กับเขา
"เจ้ามีเครื่องมือหรืออุปกรณ์สำหรับกลั่นโิสถทิพย์ที่อยู่ในระดับเดียวกับ
ตำราเซียนมนุษย์ เล่มนี้บ้างหรือไม่" โม่บ่อกี้ พูดขณะที่ใช้ตำราเซียนมนุษย์
ตบไปที่อกของผู้ดูแลร้าน
ผู้ดูแลร้านรู้สึกไม่สบายใจนัก เขาได้หลอกลวง โม่บ่อกี้ ให้ซื้อตำราเซียนมนุษย์ และตอนนี้ โม่บ่อกี้ ก็นำมาซึ่งเห็นได้ชัดว่านี่คือการเตือน
ไม่ให้เขาถูกหลอกด้วยสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
"คิกคิกคิก..."
เสียงหัวเราะดังมาจากด้านข้างของร้านเมื่อมีคนได้ยิน โม่บ่อกี้ สรรเสริญ
คู่มือพื้นฐานการเพาะปลูก นาก็กลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไป ที่มีคนยอมซื้อ คู่มือพื้นฐานของการเพาะปลูก
ทั้งที่หนังสือเล่มนี้พบได้ทั่วไปตามท้องตลาด อีกทั้งเรียกมันอย่างยกย่องว่า ตำราเซียนมนุษย์
และคิดว่ามันเป็นวิชาชั้นยอด
โม่บ่อกี้ หันไปแล้วพบกับผู้หญิงสองคนเขาจำได้ทันทีว่าหนึ่งในนั้นคืิอ
ฉู่ว่านเอ๋อ สตรีที่เขาพบบนเรือเป็นคนสุดท้ายที่เขาคาดหวังว่าจะมาเจอที่นี่
"ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสฉู่
ข้าต้องขอบคุณเรื่องที่ท่านได้ช่วยเหลือข้าไว้บนเรือ" โม่บ่อกี้
ทักทายนางด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งในพระคุณ
ฉู่ว่านเอ๋อ ตอบอย่างอายๆว่า "ข้าต้องขอโทษแทนเพื่อนของข้าด้วย นางไม่ได้จงใจหัวเราะเยาะเจ้า"
ถึงแม้จะเห็นอยุ๋เต็มสองตาว่า เพื่อนของหัวเราะเยาะโม่บ่อกี้ก็ตามที
หลังจาก ฉู่ว่านเอ๋อ พูดจบนางก็สังเกตเหํน เฉินเหลียน นางไม่เข้าใจว่าทำไม
คนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ฝึกฝนจะติดตาม โม่บ่อกี้ ที่มีรากฐานแค่มนุษย์เท่านั้น
โม่บ่อกี้โบกมือให้กับนาง "ไม่เป็นไร สำหรับท่านมันอาจเป็นแค่ คู่มือพื้นฐานของการเพาะปลูก
แต่สำหรับคนที่นที่ไม่เคยได้รับการเพาะปลูกหรือฝึกฝนมาก่อน มันคือ ตำราเซียนมนุษยื
ที่มีคุณภาพสูงสุดซึ่งสามารถทำให้มนุษย์เป็นอมตะได้ ถ้าใช้มัน แต่ข้าก็แค่กบในกะลาเท่านั้น"
คราวนี้แม้แต่ ฉู่ว่านเอ๋อ ที่เยือกเย็นและอ่อนโยน ก็ฝืนไว้ไม่ไหวอีกแล้วและหัวเราะออกมา
"ท่านครับ
ข้ามีชุดของอุปกรณ์การกลั่นยาที่คุณกำลังมองหา เรียกว่า เขียวชั่วนิจนิรันดร์ ซึ่งต่างจาก
ตำราเซียนมนุษย์ จริงๆแล้ว เขียวชั่วนิจนิรันดร์ ถูกนำเข้ามาจากดินแดนที่ห่างไกล และถูกวางอยู่ในร้านเพราะไม่มีคนใช้เครื่องเพื่อปรับแต่งยา
คุณภาพของอุปกรณ์ชุดนี้สามารถกลั่นยาได้หลายต่อหลายครั้ง และยาที่ผลิตได้จะมีความบริสุทธิ์สูง
"ผู้ดูแลร้านบรรยายสรรพคุณสินค้าของร้าน เพื่อดึงให้ โม่บ่อกี้
กลับมาสนใจเขาอีกครั้ง
"ราคาเท่าไหร่"
โม่บ่อกี้ ถามตรงๆ เขาเคยซื้ออุปกรณ์ที่มีคุณภาพต่ำจำนวนมากในรัฐเฉิงตูมาแล้ว
ราคาันประมาณหนึ่งถึงสองพันเหรียญทอง แม้ว่าอุปกรณ์นี้จะดีกว่ามากและมีราคาเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า
แต่เขาก็ยังสามารถซื้อได้
"สามแสนเจ็ดหมื่นเหรียญทอง..."
เมื่อผู้ดูแลร้านพูดจบ โม่บ่อกี้รู้สึกเหมือนมีฟ้าผ่ากลางแจ้ง ทั้งเนื้อทั้งตัวเขาแทบจะเหลือเงินไม่ถึงสามหมื่นเหรียญทองด้วยซ้ำ
ซึ่งนั่นไม่ได้ใกล้เคียงกับสามแสนเจ็ดหมื่นเหรียญทองสักนิดเดียว
"ดีละ
ข้ามีหญ้าอัคคีสองใบอยู่ ไม่รู้ว่าเจ้าจะยอมให้ข้าใช้มั้นจ่ายเงินแทนได้หรือไม่"
โม่บ่อกี้ พูดอย่างมีความหวัง
โดยประมาณการของเขา หญ้าอัคคีสองใบ มีมูลค่าน้อยกว่าผลผลึกแก้วมากมายนัก
แต่เขาก็ไม่มีทางอื่นนอกเหนือจากการพยายามอัศัยโชคของเขา
"อา เจ้ามีหญ้าอัคคีสองใบรึ
เจ้าขายให้ข้าได้ไหม ข้าจะจ่ายให้สีแสนเหรียญทอง" ฉู่ว่านเอ๋อ
ร้องบอกเสียงดัง
"ท่านต้องการหญ้าไฟสองใบหรือ"
โม่บ่อกี้ถามด้วยความสงสัย ฉู่ว่านเอ๋อ พยักหน้า "ใช่ข้าต้องการหญ้าอัคคีสองใบ นี่เป็นตัวแลกเงินสี่แสนเหรียญทอง"
โดยไม่รอคำตอบของ โม่บ่อกี้ ฉู่ว่านเอ๋อ หยิบตั๋วแลกเงินจำนวนสี่แสนเหรียญทองออกมา
ทั้งสี่คนอยู่ที่หน้าร้านของ เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ดังนั้นไม่น่ามีปัญหากับการแลกเหรียญทองที่นี่
โม่บ่อกี้ รีบหยิบกล่องไม้และส่งให้ ฉู่ว่านเอ๋อ และขอบคุณนางในเวลาเดียวกัน
"ข้าต่างหากควรจะเป็นคนที่ขอบคุณเจ้า
ข้าต้องไปก่อน แล้วพบกันใหม่" ฉู่ว่านเอ๋อ คว้ากล่องไม้แล้วดึงผู้หญิงที่อยู่ข้างๆนางและรีบออกจากร้านค้าไป
ตั๋วแลกเงินทั้งสี่แสนเหรียญทอง อยุ่ในมือผู้ดูแลร้านแล้ว "ท่านช่วยให้ข้าได้อุปกรณ์การกลั่นยาที่มีคุณภาพสูงสุดที่เจ้าพูดถึงได้หรือไม่"
ผู้ดูแลร้านไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะปิดการขายได้เร็วขนาดนี้ จึงรีบวิ่งไปเก็บตั๋วแลกเงินไว้
ก่อนที่จะตอบกลับด้วยความเคารพนพนอบ "โปรดรอสักครู่ข้าจะรีบนำอุปกรณ์การกลั่นยามาให้ท่านทันที"
เมื่อผู้ดูแลร้านหายไป เฉินเหลียน จึงเริ่มพูด "ข้าว่ามันแปลกมาก แม้ว่าหญ้าอัคคีสองใบจะหายากมาก
แต่ก็ยังไม่คุ้มค่ามากนัก การที่ผู้อาวุโสฉู่ ที่เจ้ารู้จัก ดูเหมือนว่าวิชาส่วนใหญ่ที่นางฝึกจะใช้วิชาเกี่ยวกับน้ำมากกว่า
ทำไมนางต้องจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อซื้อหญ้าอัคคีสองใบ"
โม่บ่กี้ ตอบอย่างเย็นชาว่า "ไม่ใช่เรื่องของท่าน"
อันที่จริงเมื่อ ฉู่ว่านเอ๋อ พูดว่านางต้องการหญ้าอัคคีสองใบในทันที โม่บ่อกี้
ก็ รู้ว่านางกำลังโกหก นางคงไม่ค่อยชำนาญในการโกหกเพราะมันไม่เหมาะกับนางเลย อย่างไรก็ตามเนื่องจากนางได้ยื่นข้อเสนอของนางแล้ว
มันจะไม่สุภาพที่เขาจะปฏิเสธ โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลเบื้องหลังการกระทำของนาง โม่บ่อกี้
จึงยอมรับความปรารถนาดีนี้และจดจำพระคุณครั้งนี้ไว้
…
"ว่านเอ๋อ
อย่าบอกข้านะว่าเจ้ารู้สึกสนใจอะไรกับเจ้าเด็กคนนั้น ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการหญ้าอัคคีสองใบอย่างมาก
แต่ทำไมเจ้าถึงให้ราคาถึงสี่แสนเหรียญทอง" ฉู่ว่านเอ๋อ ถูกซักไซ้จากผู้หญิงที่มากับนาง
ขณะที่ทั้งสองเดินออกจาก เรือนวานิชแห่งลั่วไห่
ฉู่ว่านเอ๋อ ตอบอย่างใจเย็นว่า "เขามีรากมนุษย์เท่านั้น"
เมื่อได้ยินว่า โม่บ่อกี้ มี รากมนุษย์ คู่หูของ ฉู่ว่านเอ๋อ ก็รู้ได้ทันทีว่านางไม่สนใจเขา
แต่นางยังมอง ว่านเอ๋อ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ฉู่ว่านเอ๋อ จึงพูดต่อว่า "แม้ว่าเขาจะเป็นแค่มนุษย์ แต่ระดับของความมุ่งมั่นและความยืดหยุ่นเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตของข้า การถูกโจมตีเป็นระลอกระลอกด้วยคลื่นสายฟ้าฟาด แม้กระทั่งผู้ได้รับการฝึกฝนก็ต้องถอยหนี แต่เขาไม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาถูกโจมตีกลับด้วยสายฟ้าฟาดจากจระเข้สายฟ้าหกขา และเมื่อมันจบลง เขาก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ในท้ายที่สุดเขาใช้ร่างกายที่เป็นมนุษย์ธรรมดามีเลือดมีเนื้อของเขาฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัวทั้
ฉู่ว่านเอ๋อ จึงพูดต่อว่า "แม้ว่าเขาจะเป็นแค่มนุษย์ แต่ระดับของความมุ่งมั่นและความยืดหยุ่นเป็นสิ่งที่ข้าไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิตของข้า การถูกโจมตีเป็นระลอกระลอกด้วยคลื่นสายฟ้าฟาด แม้กระทั่งผู้ได้รับการฝึกฝนก็ต้องถอยหนี แต่เขาไม่ ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เขาถูกโจมตีกลับด้วยสายฟ้าฟาดจากจระเข้สายฟ้าหกขา และเมื่อมันจบลง เขาก็ลุกขึ้นแล้วพุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง ในท้ายที่สุดเขาใช้ร่างกายที่เป็นมนุษย์ธรรมดามีเลือดมีเนื้อของเขาฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัวทั้
"แล้วยังไงล่ะ
ก็แค่พวกไร้สมองดีแต่ใช้กำลังเท่านั้น"
ฉู่ว่านเอ๋อ ส่ายหัว "ถ้าเขาไม่มีสมองเขาไม่มีทางฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาได้สองตัว
เหตุการณ์นี้ทำให้เขารู้ว่าข้อ จำกัด ของเขาอยู่ที่ไหน เขารู้ว่าในระหว่างการต่อสู้กับความตายจระเข้สายฟ้าทั้งสองจะต้องตายในมือของเขา
แต่น่าเสียดายที่เขาเป็นแค่มนุษย์ธรรมดา... "
//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
แมวอ้วน : แปลจบแล้วว้อย ตี3กว่า ในตอนนี้แมวอ้วนแปลคนเดียว เนื่องจากไก่ในตำนานติดธุระสำคัญ เกี่ยวกับเรื่องการศึกษา ผิดพลาดประการใด แมวอ้วน กราบขออภัยมา ณ.ที่นี้ ด้วยครับ (แอบนินทาไก่ในตำนานนิดนึง555)
ขอบคุณ : rubsarb โปรดักชั่น ด้วย ที่ลงคลิปตอนตีสองกว่าแล้วทำให้มีอะไรฟังไม่ง่วง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น