วันศุกร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2561

บทที่ 47: คะแนนสะสม เรือนวานิชแห่งลั่วไห่


บทที่ 47: คะแนนสะสม เรือนวานิชแห่งลั่วไห่

ไก่ในติดงาน และ แมวป่วย แปล


          สตรีในชุดเหลืองหัวเราะเยาะแล้วพูดว่า "เช่าเฟ็ง เขาไม่เคยได้รับการปลูกฝังและศิลปะการต่อสู้ของเขาก็อ่อนด้อยมาก ที่เขาสามารถฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาได้ ทั้งหมดนั้นก็เพราะใช้ยาและอาศัยโหดเหี้ยมที่เกรี้ยวกราดของเขาเท่านั้น เจ้าคิดจริงหรือว่าเขาจะช่วยเพื่อนของเจ้าจากจระเข้สายฟ้าทั้งสองตัวได้จริงๆ "

          "
ศิษย์น้อง ว่านเอ๋อ ข้าไม่คิดว่า... "เช่าเฟ็ง ขมวดคิ้ว แล้วพูดตะกุกตะกัก ขณะที่พยายามหาเหตุผลให้ตัวเอง

         
สตรีในชุดขาวโบกมือห้าม "เช่าเฟ็ง เรียกข้าว่า ฉู่ ว่านเอ๋อ และข้าไม่ใช่ศิษย์น้องของเจ้าเจ้ามาจาก วิหารหยกพิสุทธิ ส่วนข้ามาจากวิหารสวรรค์ เรามาจากคนละนิกายกัน ข้าจึงให้เกียรติในการพูดคุยกับเจ้า ในฐานะศิษย์ที่มีพรสวรรค์จากนิกายใหญ่ เจ้าควรจะปล่อยวางและมีความอดทนอดกลั้น ในด้านนี้  ศิษย์พี่ ฮัว ยู่เชง เหนือกว่าเจ้ามาก"

         
เช่าเฟ็ง โกรธจนเลือดขึ้นหน้า "อย่าเอาข้าไปเปรียบกับไอ้สารเลวนั่น"

         
สตรีในชุดเหลืองจึงหยุดพูด โม่บ่อกี้ กำลังจะขอบคุณ อาจารย์ฉิน และเซียนหญิงชุดเหลือง แต่มีเสียงตะโกนดังขึ้น โม่บ่อกี้จึงหันหลังกลับไปดู เห็นฝูงจระเข้และคางคกจำนวนมากถูกผลักดันให้ล่าถอยไป

บนดาดฟ้าเหลือเพียงกลิ่นเลือดและซากศพมากมายทั่วทุกแห่ง บางซากก็เป็นจระเข้บางซากก็เป็นผู้โดยสาร ผู้โดยสารที่ตายส่วนมากถูกสายฟ้าฟาดอย่างน่าสังเวช ในทางตรงกันข้ามมีจระเข้สายฟ้าไม่กี่ตัวเท่านั้นที่ถูกฆ่าโดยการแทงเข้าลำคอ ส่วนใหญ่ล้วนถูกตัดออกเป็นสองเสี่ยง

         
แม้ไม่ต้องบอก โม่บ่อกี้ ก็รู้ดีว่าส่วนมากถูกฆ่าโดยปรมาจารย์เซียน

          "
บ่อกี้ เจ้าปลอดภัยไหม" หลังจากจระเข้สายฟ้าถูกผลักดันให้ถอนตัวไป หยวนเสิ่นยี รีบวิ่งมาหา โม่บ่อกี้ ทันที ก่อนหน้านี้เขาถูกสถานการณ์บังคับให้แยกห่างจาก โม่บ่อกี้ แค่ป้องกันตัวก็นับว่ายากมากอีกทั้งยังต้องแบ่งความสนใจมามองหา โม่บ่อกี้ อีก

          "
ข้าสบายดี แล้วบู้เอ้อล่ะ" โม่บ่อกี้ ถามด้วยความกังวล

          "
บ่อกี้ พี่เสิ่นยี ข้าสบายดี" ติงบู้เอ้อ ตอบกลับมา ร่างกายของเขายังดูซีดเซียว ดูเหมือนไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาที่เอาชีวิตรอดจากการโจมตีครั้งนี้

          "
อาจารย์เซียนทั้งหลายขอบพระคุณที่ช่วยพวกเรา" เมื่อเห็นว่าทั้ง หยวนเสิ่นยี และ ติงบู้เอ้อ ไม่เป็นไร โม่บ่อกี้ จึงหันไปคำนับ อาจารย์เซียนฉิน และสตรีที่สวมชุดเหลือง

         
สตรีชุดเหลืองจึงพยักหน้ารับ แต่ไม่พูดอะไรสักคำ ในทางกลับกัน อาจารย์เซียนฉิน มองดู โมวูจิ อย่างพิจารณาสักครู่แล้วกล่าวว่า "ครั้งนี้เจ้าทำได้ดีมาก ไม่เลว ไม่เลวให้เจ้าย้ายไปอยู่ห้องพักเดี่ยวได้"

         
โม่บ่อกี้ รีบตอบว่า "ขอบคุณท่านอาจารย์เซ๊ยนอย่างยิ่ง แต่ข้าสบายดีในห้องพักรวม"

         
โม่บ่อกี้ นึกถึงการถูกลอบทำร้ายจาก เช่าเฟ็ง โม่บ่อกี้ ไม่มีทางป้องกันตัวเองจากยอดฝีมืออย่าง เช่าเฟ็ง ถ้าเขาอยู่เพียงลำพังในห้องเดี่ยว เขาอาจถูกฆ่าตายโดยไม่มีใครจะรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยการอยู่ในห้องพักรวมก็จะปลอดภัยมากกว่าเล็กน้อย

         
อาจารย์เซียนฉิน ไม่ได้ต่อว่าอะไร เขาถามว่า "รากฐานฝ่ายวิญญาณของเจ้าเป็นอย่างไร"

         
โม่บ่อกี้ ตอบว่า "ข้าเคยรับการทดสอบก่อนหน้านี้แล้วรากฐานทางจิตวิญญาณของข้าอ่อนแอมาก มันไม่ดีไปกว่ารากเหง้าของมนุษย์"

         
โม่บ่อกี้ ไม่ได้โกหกแน่นอน เขาไม่ได้ทดสอบรากฐานทางจิตวิญญาณของเขาแค่เพียงครั้งเดียว แต่ถึงสองครั้ง นอกจากนี้รากฐานทางจิตวิญญาณของเขาไม่เพียงอ่อนแอแต่นั่นคือทั้งหมดที่มี เขาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีรากเหง้าของมนุษย์

         
โม่บ่อกี้ รู้ดีว่าคำตอบนี้คงไม่สร้างความประทับใจให้กับ อาจารย์เซียนฉิน เพื่อที่จะมีโอกาสได้เข้านิกายของอาจารย์เซียนฉิน เขากลัวว่าที่จริงแล้วเขาอาจจะมีรากฐานทางจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งขึ้น เพราะในขณะนี้ว่าเขาได้เปิดจุดเส้นชีพจร ถึงสามจุด ดังนั้นเขาจึงอยากที่จะจากไปอย่างเงียบๆ

         
เมื่ออาจารย์เซียนฉิน ได้ยินคำพูดของ โม่บ่อกี้ ในดวงตาของเขาก็ทอแววประกายแห่งความผิดหวังขึ้น เขาได้แต่ส่ายหัวแล้วเบือนหน้ากระโดดหายไปอย่างไร้ร่องรอย ด้วยความพยายามและความมุ่งมั่นของ โม่บ่อกี้ เขาจะเป็นศิษย์ชั้นยอดที่เหมาะสมในการอบรมสั่งสอน อย่างไรก็ตามให้ศิษย์ดีเพียงใดก็ยังต้องฝึกฝน แต่หากไร้ซึ่งรากฐานทางจิตวิญญาณ โม่บ่อกี้ ก็เป็นได้แค่มนุษย์เท่านั้น แม่ว่าด้วยความขยันหมั่นเพียรของจะทำให้เขาได้ไกลเพียงใดก็ตามที

         
ดวงตาของสตรีชุดเหลือง ก็เผยห้เห็นถึงความเสียดาย หลังจากนั้นนางก็เดินออกไปทางซ้าย เชาเฟ็ง ไม่พูดอะไรกับ โม่บ่อกี้ อีกได้แต่เดินตามสตรีชุดเหลืองไปอย่างรวดเร็ว

         
ทั้งดาดฟ้าเรือเต็มไปด้วยเลือดสดๆ บางคนเริ่มทำความสะอาดร่างกายแล้ว โม่บ่อกี้ กะประมาณดูมีอย่างน้อยสองพันคนที่เสียชีวิตในวันนี้

         
ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวทำให้ผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต หากยังมีการโจมตี อีกหลายครั้งผู้โดยสารที่อยู่บนเรือลำนี้ระรอดถึง ฉางลู่ น้อยกว่าครึ่ง โม่บ่กี้ เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมไม่มีใครสนใจเรื่องการล้างแค้นหรือฆ่ากันบนเรือลำนี้ นั่นเพราะเมื่อมีคนมากขึ้นบนเรือลำนี้ โอกาสที่จะมีชีวิตรอดจากการโจมตีสัตว์ทะเลก็จะสูงขึ้น ยกเว้นเหล่าปรมาจารย์เซียนแล้ว ทุกคนที่นี่สามารถตายได้ทุกเมื่อ

          "
บ่อกี้ อาการบาดเจ็บของเจ้าหนักหนามาก" ตอนนี้ หยวนเสิ่นยี กังวลเกี่ยวกับคำพูดของ อาจารย์ฉินกับพวกทางซ้ายมือ และเขาเห็นเสื้อผ้าของ โม่บ่อกี้ ชุ่มด้วยเลือดเนื้อตัวก็เต็มไปด้วยรอยไหม้ ซึ่งให้เขาคิดว่า โม่บ่อกี้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส

         
แต่ โม่บ่อกี้ รู้ดีว่าอาการบาดเจ็บของเขาไม่หนักหนา นี่เป็นเพราะยาเสริมจิต ที่อาจารยย์เซียนฉิน มอบให้เขา

          "
เสิ่นยี ข้าสบายดีกลับไปแล้วค่อยคุยกันนะ"

         
เวลานั้นมีชายผิวขาวผู้หนึ่งได้เรียก โม่บ่อกี้ "โปรดรอก่อน ข้าขอถามอะไรสักนิด ไม่ทราบว่าท่านคือ โม่บ่อกี้ จากบ้านพักรวมที่สามสิบสองจากรัฐฉางอันใช่หรือไม่" [1]

         
โม่บ่อกี้ มองชายในเสื้อคลุมสีน้ำตาลด้วยความประหลาดใจ เขาไม่รู้จักคนผู้นี้ แต่คนใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาลแตกต่างจากคนอื่นๆ เขาถือหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ในมือซึ่งดูเหมือนเขากำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านมันอยุ่

          "
ใช่ ข้าคือ โม่บ่อกี้" โม่บ่อกี้ ตอบแล้วพยักหน้ารับอย่างุนงง

         
ชายใส่เสื้อคลุมสีน้ำตาล เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือของเขา แล้วยิ้มและพูดว่า "ถือเป็นเรื่องที่ดี ข้าเป็นคนของ เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ตอนนี้ท่านได้ฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัว ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่สะดวกนักที่จะขนพวกมันเดินทางไปไหนมาไหนด้วยใช่ไหม ทางสมาคมของเราต้องการที่จะซื้อสินค้าทั้งสองชิ้นนี้ ไม่ทราบว่า ท่านต้องการที่จะให้เราจ่ายเป็นเหรียญทองหรือคะแนนสะสมของเรือนวานิชแห่งลั่วไห่"

         
อะไรนะ จระเข้สายฟ้าหกขาจะตกเป็นทรัพย์สินของคนที่ฆ่าพวกมัน ไม่ใช่ของเหล่าอาจารย์เซียนบนเรือลำนี้ อ๋อ คงเพราะเหล่าอาจารย์เซียนไม่สนใจเรื่องสัตว์ระดับต่ำเช่นจระเข้สายฟ้าหกขานั่นเอง

          "
บ่อกี้ เจ้าฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัวหรือ" หยวนเสิ่นยี มองไปที่ โม่บ่อกี้ ด้วยความตกใจ ตั้งแต่ โม่บ่อกี้ เอาชนะผู้คุ้มกันจาก รัฐจิ้นฮั่นได้ ด้วยการลงมือเพียงครั้งเดียว หยวนเสิ่นยี ก็รู้ว่า โม่บ่อกี้ เป็นคนที่มีผีมือไม่ธรรมดา อย่างไรก็ดีแม้เขาจะประเมิน โม่บ่อกี้ ไว้สูงมาก แต่เขาก็ไม่เคยคาดคิดว่า โม่บ่อกี้ จะฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาได้สองตัว

         
โม่บ่อกี้ พยักหน้า "ใช่แล้วละ ถึงตอนนี้ข้าฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัวแล้ว"

         
โม่บ่อกี้ หันไปหาชายที่สวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลและถามว่า "ผุ้อาวุโส ข้าขอสอบถามเกี่ยวกับคะแนนสะสม เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ได้หรือไม่"

          "
ลูกค้าของ เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ แบ่งเป็นลูกค้าทั่วไปหรือเป็นลูกค้าประจำมี จะถูกแบ่งเป็น ห้าระดับ สำหรับลูกค้าทั่วไป จะแบ่งเป็น สีส้ม สีเขียว สีฟ้า สีคราม และ สีม่วง ตามลำดับจากน้อยไปหามาก เมื่อท่านซื้อสินค้าจาก เรือนวานิชแห่งลั่วไห่ ท่านสามารถลงทะเบียนเพื่อรับบัตรสีส้มของเราได้ บัตรเหล่านี้ใช้เพื่อสะสมคะแนนและเมื่อท่านได้รับคะแนนเพียงพอ ท่านจะสามารถอัพเกรดบัตรของท่านได้ พี่โม่ ฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาไปสองตัว ทางเรายินดีที่จะจ่ายเงินให้ท่าน สองหนื่นเหรียญทอง นอกจากนี้เรายังจ่ายเป็นคะแนนสะสม 200 คะแนน ของเรือนวานิชแห่งลั่วไห่ แทนได้ด้วย"

         
เหรียญทองสองหมื่นเหรียญ ถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไปแต่มันไม่ได้มากมายนักสำหรับ โม่บ่อกี้ เขาจึงถามทันทีว่า "คะแนนสะสมเอาไปใช้อะไรได้"

         
ชายในชุดคลุมสีน้ำตาลหัวเราะและพูดว่า "คะแนนสะสมของเราสามารถแลกเปลี่ยนเป็น สินค้าภายในร้านของเรา ไม่ว่าจะเป็น คู่มือการเพาะปลูก ยาเม็ด เครื่องมือทางจิตวิญญาณ แม้กระทั่งสามารถใช้แลกเปลี่ยน... "

          "
ข้าต้องการคะแนนสะสม" โม่บ่อกี้ ไม่รอให้ชายเสื้อคลุมสีน้ำตาลพูดจบ เมื่อเขาได้ยินคำว่า "คู่มือการเพาะปลูก" เขาก็ไม่ลังเลที่จะเลือกคะแนนสะสม

         
เขายังถามอีกว่า "ต้องใช้คะแนนเท่าไรเพื่อแลกกับคู่มือการเพาะปลูก"

         
ชายในเสื้อคลุมน้ำตาลตอบอย่างจริงจังว่า "มันก็ขึ้นอยู่กับระดับคู่มือที่มีราคาต่ำสุด น่าจะประมาณหนึ่งหมื่นคะแนนสะสม ส่วนในระดับที่สูงที่สุดอาจไม่สามารถซื้อได้แม้แต่จะซื้อด้วยคะแนนสะสมอาจต้องมีคะแนนนับล้านคะแนน"

         
โม่บ่อกี้ ถอนหายใจ เขาพยายามแทบตายที่จะฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาทั้งสองตัว แต่เขาได้มาเพียง สองร้อยคะแนนเท่านั้น แม้แต่การใช้คู่มือการเพาะปลูกระดับต่ำสุดก็เป็นเพียงความฝันของ โม่บ่อกี้

          "
แล้วข้าต้องทำอย่างไรจึงจะได้คะแนนสะสมเพิ่มขึ้น" โม่บ่อกี้ รีบถาม

         
ชายเสื้อคลุมสีน้ำตาลตอบว่า "มีอยู่หลายวิธี ท่านสามารถแลกเปลี่ยนส่วนผสมทางจิตวิญญาณ แร่ ยา หรือ แม้กระทั่งงานที่มอบหมาย ทั้งหมดนี้สามารถแลกเป็นคะแนนสะสมได้"

[1]
โปรดทราบว่า โม่บ่อกี้ กำลังทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มกันของ จี้ซิง ที่มาจาก ฉางอัน
////////////////////////////////////////////////////////////////////


แมวอ้วน: กราบขออภัยในความล่าช้าของการลงต้นฉบับไว้ .ที่นี้ด้วยครับ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น