บทที่ 53: จุดเริ่มต้นของการฝึกฝน
เดอะแพนด้าทีม
ไก่ย่างส้มตำ และแมวง่วง แปล
ผู้หญิงชุดดำอับอายเล็กน้อยจึงตอบอย่างลังเลว่า "มีเรื่องบางอย่างที่เร่งด่วนเกิดขึ้นมา
ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถไปจาก ฉางลู่ และตอนนี้ข้าหาที่พักอื่นไม่ได้อีกแล้ว"
โม่บ่อกี้ ตอบด้วยความไม่สบายใจว่า "ข้าต้องขอโทษด้วยที่ ทำให้เจ้าไม่มีที่พัก
แต่ข้าจะไม่ย้ายออกจากห้องพักของโรงเตี๊ยมแห่งนี้"
แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถเพาะปลูกได้แต่เขาตัดสินใจที่จะพยายามอย่างต่อเนื่อง
นั่นเพราะเขารู้วิธีการเพาะปลูกแล้ว และนี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสม
สำหรับเขาในการเริ่มฝึกฝน
หญิงสาวในชุดดำโบกมือแล้วพูดว่า "ท่านไม่จำเป็นต้องออกไปหรอก
ห้องนี้สร้างไว้ให้พักได้สองคนได้ ทางด้านซ้ายของห้องนั่งเล่นยีงมีห้องพักอื่นอีก"
โม่บ่อกี้ ไม่ทันสังเกตเห็นห้องข้างซ้ายจนเมื่อยลนางพูดถึงเรื่องนี้
เมื่อคืนนี้ เขาเข้าห้องมาแล้วฟุบหลับไปทันทีและอยู่ในสภาพนั้นจนถึงเช้า
เมื่อเขากลับมาเขาก็เริ่มพยายามที่จะฝึกฝน
โดยไม่ได้ก้าวเข้าไปในห้องอื่น
สำหรับห้องที่เป็นห้องคู่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาสองหมื่นเหรียญทอง
ไม่ใช่ว่า โม่บ่อกี้ ไม่ต้องการช่วยผู้หญิงคนนี้ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเขา
ถ้าเขาไม่ได้กำลังพยายามบ่มเพาะพลังอยู่ เขาก็จะยอมให้นางอยู่อย่างสบายใจ
แต่เพราะมันไม่ใช่เรื่องดีเลย ถ้านางจะขัดจังหวะการฝึกของเขาตอนที่เขายังฝึกอยู่
หญิงสาวชุดดำรีบรีบพูดว่า "อย่ากังวลไปข้าจะไม่รบกวนท่านในขณะที่ท่านกำลังฝึก
อันที่จริงแล้ว ข้าสามารถช่วยเจ้าได้ในบางส่วนที่เจ้าไม่เข้าใจ "
โม่บ่อกี้ รู้ได้ทันทีว่าผู้หญิงในชุดดำคนนี้รู้ทุกอย่างเพราะ
ตำราเซียนมนุษย์ที่เขาถืออยู่ก่อนหน้านี้
"เจ้าเป็นอาจารย์ผู้ฝึุกวิชาเซียนหรือ"
โม่บ่อกี้ถามด้วยความอยากรู้
หญิงสาวชุดดำตอบอย่างถ่อมตนว่า "ข้าไม่เก่งกาจจนเรียกได้ว่าเป็นอาจรย์ได้หรอก
ตอนนี้ข้าอยู่เพียงที่การเปิดช่องทางจิตระดับสี่เท่านั้น
แต่ข้าค่อนข้างคุ้นเคยกับวิขาพื้นฐาน"
ใครก็ตามที่อยู่ในช่วงการเปิดช่องทางแห่งจิตวิญญาณ
ถือได้ว่าเป็นเซียนในสายตาของมนุษย์ทั่วไป
อย่างไรก็ตามหญิงสาวชุดดำรู้ว่านางไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษในการพบกันครั้งแรก
นางจึงรู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นอาจารย์เซียน
โม่บ่อกี้ รู้สึกหวาดหวั่นเมื่อได้ยินเรื่องนี้ ฮันหนิงอยู่ที่
การเปิดช่องทางระดับหนึ่งเท่านั้นและนางได้กล่าวว่าจะมีการเพิ่มพลังอย่างมากหลังจากที่เข้าสู่
การเปิดช่องทางจิตระดับสี่
โม่บ่อกี้ ขยับตัวหลีกทางแล้วเปิดประตูให้
พร้อมยิ้มอย่างสดใสแล้วพูดว่า " น้องสาวผู้รอบรู้ รีบเข้ามาด้านในเถิด
ข้างนอกลมแรงนัก”
หญิงสาวชุดดำมองไปที่ โม่บ่อกี้ อารมณ์ของ โม่บ่อกี้ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
หลังจากประโยคนั้น แล้วจะเกิดมีลมแรงพัดอยู่ภายในโรงแรมได้อย่างไร?
นางค่อนข้างลังเลใจที่จะขอแบ่งปันห้องกับ โม่บ่อกี้
แต่อย่างไรก็ตามนางก็ไม่มีที่อื่นที่จะหาที่พักและนางยังไม่สามารถออกจากเมืองฉางลู่ได้
และนางยังมีแผนการอื่นในเมือง
โมบ่อกี้ รอให้หญิงชุดดำเข้าก่อนจะปิดประตู จากนั้นเขาก็รีบไปหยิบ <ตำราเซียนมนุษย์> ที่น่าอายขึ้นมา เขาคิดว่าตัวเองอาจจะดูดีในสายตาของผู้หญิง
แต่กลับกลายเป็นแค่เศษขยะของในโลกแห่งการเพาะปลูก
"หลักการพื้นฐานของการเพาะปลูกก็ใช้ได้
เพราะมีราคาถูก แต่ก็ไม่ใช่หนังสือที่ดีที่จะปฏิบัติตามหากท่านต้องการปลูกฝังอย่างมีประสิทธิภาพ"
หญิงสาวชุดดำพูดอย่างตรงไปตรงมาเมื่อนางเห็นเขาหยิบหนังสือ
"นั่นก็ใช่
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามข้าเคยได้ยินมาว่า
คู่มือเล่มนี้ได้รับการเผยแพร่มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว
และเป็นคู่มือที่มีประโยชน์มากที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น
ข้าเชื่อว่าถ้าข้าต้องการที่จะเริ่มต้นฝึกฝนและแข็งแกร่งขึ้น
ข้าควรจะได้รับการฝึกพื้นฐานที่ถูกต้องตั้งแต่แรก
เมื่อข้าตัดสินใจที่จะเริ่มต้นฝึกฝน ข้าก็ไม่กลัวที่จะต้องฝึกหนักหรือเสียเวลา
โม่บ่อกี้ พูดอย่างมั่นใจ แม้ว่าความจริงก็คือเขาไม่สามารถใช้คู่มืออื่นได้
หญิงสาวชุดดำรู้สึกประหลาดใจในคำพูดของ โม่บ่อกี้
เมื่อเขาสามารถที่จะพักอยู่ในห้องพิเศษนี้ได้
นางจึงไม่คิดไม่ถึงว่าเขาซื้อคู่มือนี้เพราะเขาไม่สามารถจ่ายเงินให้กับผู้อื่นได้
"ถูกต้องนั่นเป็นสิทธิ์ของเจ้า
ข้าไม่เคยมีความหนักแน่นเช่นนี้เลยเมื่อครั้งที่ข้าเริ่มต้นการฝึกฝน" หญิงสาวในชุดสีดำยอมรับ
ถ้านางได้เห็น โม่บ่อกั้
โยนตำราลงบนพื้นด้วยความขุ่นมัวก่อนที่นางจะเคาะประตูนางก็จะรู้ว่า โม่บ่อกี้
ไม่ได้มีความหนักแน่นอะไร
โม่บ่อกั้ หยิบใบชาออกมาและชงชาถ้วยกนึ่งให้กับหญิงสาวในชุดสีดำอย่างใจเย็น
"ข้าชื่อ โม่บ่อกี้ และข้าเพิ่งมาถึง ฉางลู่ เมื่อไม่นานนี้
ข้าวางแผนที่จะลองเสี่ยงโชคที่ งานชุมนุมประตูน้ำพุอมตะ
ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่”
"ข้ามีชื่อว่า
เฉินเหลียน แต่เจ้าอาจจะเรียกข้าว่าศิษย์พี่เฉิน ..ก็ได้. " หญิงชุดำหยุดพูดชั่วคราว ก่อนจะพูดต่อว่า "ข้าจะต้องพักอยู่ที่นี่เป็นเวลานานข้าควรจะช่วยจ่ายค่าเช่าให้เจ้าบ้างหรือไม่"
ทำไมโม่บ่อกี้จะต้องเก็บค่าเช่าจาก เฉินเหลียนด้วยเล่า
หากเขามีเงินมากกว่านี้เขาจะมอบให้กับ เฉินเหลียน ทันที
"ศิษย์พี่
เฉิน ทุกคนต้องเคยผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต นอกจากนี้
ข้าคงไม่ได้พักในห้องนี้ถ้าท่านไม่ได้เดินชนข้า
มันจะดูน่าเกลียดเกินไปที่ข้าจะให้ท่านช่วยจ่ายค่าเช่า" โม่บ่อกี้ มองหน้านางตรงๆแล้วพูดอกมา
.
เฉินเหลียน รู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ได้พูดออกไป ดังนั้นนางจึงลุกขึ้นยืนและน้อมคำนับ
โม่บ่อกี้ เมื่อได้ยินคำพูดของเขา
โม่บ่อกี้ รีบพูดอย่างเร็วว่า "ข้าไม่ได้คิดจะปิดบังอะไรท่าน
แต่ข้าแทบจะไม่เคยรู้เรื่องการเพาะปลูกและฝึกฝน
มีเรื่องอีกมากมายหลายที่เกี่ยวกับการเพาะปลูกและฝึกฝน
ที่ข้ายังไม่เข้าใจและจะต้องเรียนรู้จากท่าน"
นี่คือจุดประสงค์ของ โม่บ่อกี้ ตั้งแต่แรก
เฉินเหลียน ดูสบายใจขึ้นมากเมื่อพูดถึงหัวข้อนี้
นางยังได้วางแผนที่จะชี้แนะแนวทางให้ โม่บ่อกี้ ดังนั้นนางจึงตอบว่า "ท่านสามารถถามข้าได้ทุกเรื่อง"
โม่บ่อกี้ ใจชื้นขึ้นมาทันที ไม่มีเพื่อนของเขาคนไหนรู้เรื่องเกี่ยวกับ
การเพาะปลูก เพื่อนคนเดียวที่สามารถเพาะปลูกได้คือ ฮั่นหนิง
อย่างไรก็ตามความแตกต่างของสถานะของพวกเขาทำให้มันยากสำหรับเขาที่จะถามนางมากขึ้น
"ศิษย์พี่เฉิน
การเปิดช่องทางจิตของท่านอยู่ในระดับที่สี่
ข้าขอถามได้ไหมว่ารวมทั้งหมดแล้วมันมีอยู่กี่ระดับ และต้องมีช่องทางวิญญาณจำนวนเท่าไรถึงจะกล่าวได้ว่าเป็นผู้มีความสามารถ"
โม่บ่อกี้ ถามทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้ลมหายใจเดียว
"ความจริงที่ว่าเจ้ากำลังพยายามปลูกฝังหมายความว่าเจ้ามีรากวิญญาณขั้นตอนต่อไปหลังจากที่มีรากฐานทางจิตวิญญาณ
ก็จะเป็นการเปิดจิตวิญญาณตามจำนวนช่องทางวิญญาณที่เปิดอยู่
การทดสอบครั้งแรกจะแสดงถึงความแข็งแกร่งของเจ้าในอนาคต
โดยปกติแล้วถือว่าเป็นการดีที่จะเปิดช่องทางวิญญาณห้าช่องในการลองครั้งแรกผู้ที่มีรากฐานคุณภาพยอดเยี่ยมจะสามารถเปิดช่องทางวิญญาณได้มากกว่าสิบช่อง
... "
หากพูดถึงรากที่มีคุณภาพชั้นนำมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่โม่บ่อกี้จะคิดถึง
ย่านเอ๋อ
"วิธีการอะไร
ที่สามารถเปิดช่องทางจิตวิญญาณได้หลายช่องเมื่อทดลองเปิดเป็นครั้งแรก"
โม่บ่อกี้ถาม
"มันเป็นเรื่องยาก
ที่จะบอกได้ผู้ที่สามารถเปิดช่องทางวิญญาณได้มากกว่าสิบช่องถือว่าเป็นอัจฉริยะแล้วข้าเคยเจออัจฉริยะที่เคยเปิดช่องทางจิตวิญญาณสิบเจ็ดช่อง
แล้วข้าได้ยินมาว่าเขาเป็นคนแรกในรอบสองสามร้อยปี ที่เปิดได้มากที่สุด"เฉินเหลียน พูดด้วยน้ำเสียงหวาดหวั่น
"ท่านอยู่ในขั้นตอนเปิดช่อทางจิตหลังจากมีช่องทางจิตวิญญาณเเล้วใช่หรือไม่"
เฉินเหลียน ส่ายหัว "หลังจากเปิดช่องทางจิตวิญญาณของเจ้าแล้วเจ้าต้องบ่มเพาะพลังเพื่อขยายช่องทาง
คือการขยายขนาดช่องทางจิตวิญญาณภายในร่างกายของเจ้าอย่างต่อเนื่อง
เมื่อขนาดช่องทางจิตวิญญาณเพิ่มมากขึ้นจะส่งผลให้เกิดพลังมากขึ้นและเพิ่มโอกาสความสำเร็จที่จะเป็นไปได้ในอนาคต
มันมีทั้งหมดเก้าระดับในระดับที่เก้าก่อนที่จะเข้าขั้นตอนก่อเกิดจิตวิญญาณ
หากเจ้าสามารถเปิดช่องทางจิตวิญญาณได้เก้าสิบเก้าช่องเจ้าก็สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญได้
"
"นี่หมายความว่าผู้เพาะปลูกสามารถเปิดช่องทางวิญญาณมากที่สุดเก้าสิบเก้าช่องใช่หรือไม่"
ยังคงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ โม่บ่อกี้ ไม่รู้จัก
เฉินเหลียน พยักหน้าแล้วส่ายหัว "เพื่อให้สามารถเปิดช่องทางวิญญาณให้ได้เก้าสิบเก้าช่องเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก
ซึ่งถือได้ว่าน่าประหลาดใจมากที่มีเพียงหนึ่งหรือสองคนแบบที่ว่ามา
ในอาณาจักรตลอดช่วงเวลามากกว่าหนึ่งศตวรรษ
อย่างไรก็ตามการเปิดช่องทางวิญญาณเก้าสิบเก้าช่อง ยังไม่ใช่ขีดจำกัด มีตำนานเกี่ยวกับอัจฉริยะที่สามารถเปิดช่องทางจิตวิญญาณที่หนึ่งร้อย
และสามารถเปิดช่องทางจิตได้ต่อไปอีกสิบระดับ เเต่ได้อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงตำนานและปัจจุบันไม่มีใครสามารถทำเช่นนี้ได้
"
"เป้าหมายของการเปิดช่องทางจิต
ต่อไปในอีกถึงระดับที่สิบคืออะไร ถ้ามันเสียเวลาและความพยายามมากมาย" โม่บ่อกี้ ถาม
เฉินเหลียนกล่าวว่า "ไม่ใช่เรื่องเสียเวลา
เจ้ารู้เกี่ยวกับสามอาณาจักรแห่งการเพาะปลูกไหม"
โม่บ่อกี้ ได้แต่ส่ายศีรษะด้วยความอับอายเพราะเขาไม่รู้อะไรมากนัก
////////////////////////////////////////////////////////////////////
แมวอ้วน : เสดแย้วว้อย
ไก่ในตำนาน : …. ข้ามวันอีกแล้วลุง
แมวอ้วน : ช่วงนี้งานหนักมาก แค่จะหาเวลาแปลยังยากเลย
ไก่ในตำนาน : ผมก็เรียนหนักลุง
ไก่ในตำนาน : ผมก็เรียนหนักลุง
ถ้าทุกท่านอ่านมาถึงตรงนี้ ทีมแปล เดอะแพนด้าทีม ต้องขอกราบขออภัยเป็นอย่างสูงในความล่าช้าของการแปลต้นฉบับ และกราบขอบพระคุณทุกๆท่านที่คอยติดตามผลงานของพวกเรา กราบขอบพระคุณจริงๆครับ ด้วยความเคารพจากใจทีมแปล เดอะแพนด้าทีม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น