วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2561

บทที่ 46: ยืมสายฟ้าสังหาร


บทที่ 46: ยืมสายฟ้าสังหาร
ไก่ในตำน๊านนาน และ แมวง่วง แปล
"เปรี้ยง!" โม่บ่อกี้ ถูกสายฟ้าฟาดกระเด็นออกไปอีกครั้งด้วยฝีมือของ จระเข้สายฟ้าหกขา แต่ครั้งนี้เขาไม่ลุกขึ้นสู้อีก เพราะหลังจากที่ โม่บ่อกี้ กระเด็นออกมา จระเข้สายฟ้า ก็ทรุดลงกับพื้นไม่เเละไม่สามารถลุกยืนขึ้นได้อีก

โม่บ่อกี้ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากรับการโจมตีด้วยสายฟ้าฟ้าอีกเพียงหนึ่งหรือสองครั้ง เขาอาจจะเปิดจุดเส้นชีพจรจุดที่สามได้ แต่น่าเสียดายที่ร่างกายของเขาตอนนี้อ่อนแอมากเกินกว่าจะทนรับสายฟ้าได้ไหว

ถ้าคนรอบๆรู้ว่า โม่บ่อกี้ กำลังตำหนิว่าร่างกายของเขาอ่อนแอเกินไป อาจถูกนินทาด้วยความอิจฉา เพราะที่จริงตั้งแต่ โม่บ่อกี้ เปิดจุดเส้นชีพจรจุดแรกของเขาด้วยสายฟ้าที่ทะเลสาบสายฟ้า ซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเขามีความแข็งแรงทนทานสูง มากกว่าคนโดยทั่วไป ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจยืนหยัดได้นานขนาดนี้

"กลืนยาเสริมจิตเสีย" เสียงที่ฟังดูไร้อารมณ์ดังอยู่หูของ โม่บ่อกี้ โม่บ่อกี้ จึงพยายามมองหารอบๆ แต่กลับไม่เห็นใครที่อยู่ใกล้พอที่จะสามารถพูดกับเขาได้

ในมือของเขามีเม็ดยากลมๆ หนึ่งเม็ด เม็ดยานั้นมีขนาดใหญ่กว่า ถั่วเล็กน้อยและมีกลิ่นหอมระเหยออกมาจากเม็ดยานั้น

โม่บ่อกี้ กลืนยาเสริมจิตลงไปโดยไม่ลังเล

หากอาจารย์เซียนผู้นี้ต้องการจะฆ่า โม่บ่อกี้ เขาไม่จำเป็นจะต้องเสียยาตัวนี้ เขาสามารถจบชีวิตของ โม่บ่อกี้ ได้ทันทีอย่างง่ายดาย  นอกจากนี้กลิ่นของยาเม็ดนี้ ก็หอมหวนชวนกินจน โม่บ่อกี้ อยากลิ้มลอง อีกทั้งยังดูไม่น่ามีอะไร

เมื่อยาเข้าปาก โม่บ่อกี้ รู้สึกว่าเหมือนมีความร้อนหลายสายเกิดขึ้นในร่างกายของเขา โม่บ่อกี้ รู้สึกได้ทันทีว่าอาการบาดเจ็บของเขาลดน้อยลงอย่างมาก

เพียงแค่ไม่กี่วินาที โม่บ่อกี้ ก็สามารถลุกยืนขึ้นได้อย่างสบาย แล้วสังเกตเห็นว่าผิวที่ถูกเผาไหม้จนเกรียมเป็นแผลแผลกำลังฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว

เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของยาเสริมจิตนี้ ด้วยความรู้ของเขาในฐานะนักชีววิทยาก็เป็นเพียงเศษขยะเท่านั้น ถ้าหากไม่นับความรู้ของเขาที่สามารถปรุงยาเปฺิดจดชีพจรได้ ความรู้ของเขาจะไร้ประโยชน์ทันทีเมื่อเทียบกับยาตัวนี้

เสียงของสายฟ้าฟาด และ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ดังแว่วมาจากระยะไกล โม่บ่อกี้ ตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติของเขา นี่เป็นการต่อสู้ที่โหดร้าย อาจารย์เซียน ที่มอบยาตัวนี้ให้ย่อมไม่อยากให้เขาอยู่เฉยๆ นอกจากนี้ตัวเขาเองก็ไม่อยากนั่งดูด้วยเช่นกัน

          โม่บ่อกี้ จึงดื่มยาเปิดจุดชีพจรอีกขวดหนึ่งขวดลงไป

"ตูม" สายฟ้าปาดลงกลางหน้าอกของ โม่บ่อกี้ ขณะที่เขากำลังวิ่งออกไป แต่ตอนนี้ โม่บ่อกี้ ฟื้นตัวแล้วสายฟ้าที่ฟาดมาครั้งนี้ไม่พอที่จะทำให้เขากระเด็นออกไป

โม่บ่อกี้ จ้วงแทงมีดของเขาเข้าไปที่คอของจระเข้สายฟ้าอย่างแม่นยำ ขณะที่เขาดึงมีดออกเลือดของจระเข้ก็สาดกระเซ็นออกเป็นสาย สายฟ้าฟาดจำนวนนับไม่ถ้วน ฟาดลงสู่ร่างกายของ โม่บ่อกี้ แต่ดูเหมือนเขาไม่รู้สึกรู้สาอะไร และยังคงจ้วงแทงจระเข้ด้วยมีดในมือของเขา

"เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ... " เสียงของพลังไฟฟ้าที่เข้าสู่ร่างกายของเขาดังชัดเจนนั่นคือเสียงของจุดเส้นชีพจรของเขาเปิดขึ้น

เสียงนี้มาพร้อมกับคลื่นแห่งปิติ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ

โม่บ่อกี้ รู้สึกเหมือนตัวเขาโบยบินขึ้นไปบนท้องฟ้าได้ เแต่เขารู้ดีว่านี่เป็นแค่ความรู้สึกปลอมๆเท่านั้น แต่ความปลอดโปร่งจากการเปิดจุดชีพจรที่สามทำให้เขาท่วมท้นด้วยความสุข

เขาจึงไม่ลังเลที่จะข้วงแทงเจ้าจระเข้อีกครั้งหนึ่ง ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าของเขา หลังจากควานหาอยู่พักหนึ่ง ก็พบเพียงความว่างเปล่า โม่บ่อกี้ รู้ทันทีว่ายาเปิดจุดชีพจรของเขานั้นหมดเกลี้ยงแล้ว

ในสมองของ โม่บ่อกี้ มีอย่างเดียวนั่นคือเขาไม่อาจเปิดจุดชีพจรได้เพิ่มอีกแล้ว

"เปรี้ยง...เปรี้ยง... " สายฟ้าอีกสองสายฟาดกระหน่ำใส่กลางอก โม่บ่อกี้ อีกครั้ง

โม่บ่อกี้ ถอยหนีทันที เขาไม่ต้องการสายฟ้าฟาดจากจระเข้สายฟ้าอีกแล้ว เขาไม่โง่ขนาดนั้น

เวลาเดียวกับที่ โม่บ่อกี้ กำลังถอยห่างออกไปจระเข้สายฟ้าที่กำลังโกรธจัดรีบวิ่งเข้าใส่ โม่บ่อกี้ ทั้งที่เลือดยังไหลอยู่

โม่บ่อกี้ ได้สะสมประสบการณ์จากการต่อสู้กับจระเข้สายฟ้าเหล่านี้ พวกมันต่อสู้เพราะความโกรธและต้องการแก้แค้น ถ้าไม่ฆ่าจระเข้สายฟ้าหกขาตั้งแต่ตอนนี้เขาก็จะไม่สามารถถอนตัวได้

โม่บ่อกี้ ตั้งใจจะไม่ถอยหลังอีก เขาจึงใช้มีดของเขาจ้วงแทงไปที่คอของจระเข้ในเวลาเดียวกันเขาเหลือบเห็น เงาร่างสีแดงวิ่งเข้าหาเขา เบื้องหลังเงานั้นคือจระเข้สายฟ้าที่กำลังโกรธจัด บางทีเจ้าคนนี้อาจจะไปทำให้จระเข้สายฟ้าโมโหเข้า โม่บ่อกี้มองไปที่ เงาร่างสีแดงที่กำลังตกใจกลัว "สหายช่วยข้าด้วย แล้วข้าจะทำให้เจ้าร่ำรวยและความรุ่งเรืองอย่างที่เจ้าไม่เคยฝันถึงถึง ... "

ด้วยความสามารถของ โม่บ่อกี้ การช่วยให้คนนี้เป็นเรื่องง่าย เขาแค่ต้องเอาตัวเองเข้าขวางสายฟ้าที่กำลังจะฟาดมาถึง ซึ่งจะให้คนผู้นั้นจะมีโอกาสรอดชีวิต

ถ้าเป็นคนอื่น โม่บ่อกี้ ก็ไม่ลังเลที่จะช่วย แต่เมื่อโม่บ่อกี้เห็นชัดว่าเป็นใคร เขาก็โกรธจัดขึ้นมาทันที ผู้ชายที่สวมเสื้อสีแดงคนนั้นคือคนเดียวกับที่กราะชากกระโจมของฉิน เซียงยู ถ้าไม่ใช่เเพราะการโจมตีสัตว์ทะเลนี้ อาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับ ฉิน เซียงหยู

"รีบช่วยเขาเร็วเข้า... " เสียงหนึ่งดังขึ้นขณะที่ โม่บ่อกี้ กำลังหันหลังให้เขาและถอยหนีไป

โม่บ่อกี้ หัวเราะเยาะในใจแล้ว ทำเป้นไม่ได้ยินเสียงแล้วเขาขยับตัวไปข้างๆ ตอนที่จระเข้สายฟ้าไล่ตามมาทันแล้วกระโจนเข้าหาตัวเขา เขาไม่เคยหลบเลี่ยงการจู่โจมของจระเข้สายฟ้าเช่นนี้มาก่อน แต่เขาก็ทำได้อย่างงดงาม

"เพี๊ยะ เพี๊ยะ เปรี้ยง..." สายฟ้าสองสายฟาดเข้าใส่ชายชุดแดงอย่างเกรี้ยวกราดไร้ปราณี ชายชุดแดงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้ และล้มลงกองกับพื้น จระเข้สายฟ้าวิ่งตามมาแล้วกระโจนใส่แล้วทิ้งตัวลงบนคอของชายชุดแดง คอของชายชุดแดงถูกบดจนละเอียดไม่มีชิ้นดี และดวงตาของชายชุดแดงก็ไร้ซึ่งวี่แววของชีวิตอีกต่อไป

"เจ้าอยากตายใช่ไหม" เงาดำสายทะยานขึ้นด้านบน แล้วทิ้งตัวลงด้านหลัง โม่บ่อกี้ แล้วเหวี่ยงหมัดเข้าใส่

เมื่อหมัดนี้ชกออกมา โม่บ่อกี้ รู้สึกได้ถึงพลังกดดันอันมหาศาล เเรงกดดันนี้ส่งผลให้หัวใจ โม่บ่อกี้ เต็มไปด้วยประหวั่นพรั่นพรึงกับพลังที่มากมายมหาศาล

"เช่าเฟิง เจ้าอยากตายรึ อย่าคิดว่าจะทำอะไรกับใครก็ได้ตามใจเจ้าได้เพียงเพราะเจ้ามาจาก วิหารหยกพิสุทธิ นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าจะฆ่าคนได้ง่ายๆนะ" ชายวัยกลางคนที่ดูไร้ความรุ้สึกยืนอยู่ข้างหลัง โม่บ่อกี้

เมื่อคำพูดประโยคนี้ดังขึ้นแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามาก็หายไปโดยไร้ร่องรอย โม่บ่อกี้ คุ้นเคยกับเสียงนี้ดี เพราะนี่เป็นเสียงของคนที่มอบยาเสริมจิตแก่เขา โม่บ่อกี้ กำลังจะเอ่ยขอบคุณ เเต่ก็มีแสงประกายอีกดวงหนึ่ง แสงจ้านี้เกิดพลังสายฟ้า ที่พุ่งเข้ามาเพื่อจะฮีก โม่บ่อกี้ ออกเป็นชิ้นๆ ทว่ามันไม่ได้มาจากจระเข้สายฟ้า แต่กลับเกิดจากการปะทะกันของทั้งสองคน

"เช่าเฟิง เจ้าทำเกินไปเเล้ว การกระทำเจ้าหนูนี่ นับได้ว่าเป็นวีรบุรุษที่เสียสละตนเองเสียงชีวิต เข้าต่อสู้กับจระเข้สายฟ้าหกขา ทั้งที่เจ้าได้แต่เพียงแค่ยืนมองอยู่ที่ด้านข้างเฉยๆ ตอนนี้เจ้ากลับต้องการฆ่าเขาอย่างเช่นนั้นรึ" คนผู้หนึ่งพูดขึ้น แล้วเดินออกมาจากเงามืด คนผู้นี้เป็นสตรีที่งดงามสวมใส่อาภรสีเหลือง นางมีผมสีอ่อนและผิวที่ขาวเหมือนหิมะ ถ้าไม่ใช่เพราะความเย็นชาในสายตาของนาง ความงามของนางจะยิ่งงดงามขึ้นอีกสามเท่า

"ผู้อาวุโสฉิน เเละ น้องหญิงเหวิ่น เจ้าได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นหรือไม่ ข้าขอให้เขาช่วย ฮวอ เซิงฮู แต่ไม่ใช่แค่เขาไม่ทำแต่กลับถ่วงเวลาแล้วหลบออกไป เพื่อให้บอลสายฟ้าสองลูกฟาดเข้าใส่ ฮวอ เซิงฮู " คนที่ชื่อ เช่าเฟิง พูดออกมาอย่างไม่พอใจ
//////////////////////////////////////////////////////////////////////
แมวอ้วน : สงกรานต์ ยิ่งเล่นนานเท่าไร ก็ยิ่งชุ่มฉ่ำเปียกถึงเกงใน แม้ว่าคืนนี้อากาศจะหนาวสักเท่าไร อยากขอฝากลมฝน ช่วยเป็นสื่อให้เธอรู้ ว่าฉันหิวข้าว และมาซื้อข้าว ในคืนที่เขาเล่นน้ำอยู่ด้วยกันคืนนี้ ฉันหนาวเธอรู้ไหม ฉันขี่รถมาตั้งไกล ไม่มีร้านเปิด เซเว่นก็โคตรไกล หิวชิบหายเลยน้า แต่ถ้ารอหมดสงกรานต์ ฉันคงจะตายเปล่า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น