วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

บทที่43 ฝีมือของโม่บ่อกี้


บทที่ 43: พลังฝีมือของโม่บ่อกี้
ไก่ต้มน้ำปลา และ แมวอ้วน แปล
ฮั่นหนิง เป็นผู้เข้าร่วมงานสำคัญของ งานประตูอมตะฤดูใบไม้ผลิ นางจึงได้พักอยู่ ในห้องพักขนาดสองคนที่ดีกว่าเล็กน้อย ห้องพักของนางอยู่บนชั้นเดียวกับห้องพักรวมของ โม่บ่อกี้ พอดี

"ปัง!" เสียงปิดประตูบานใหญ่ดังก้องไปทั่ว โม่บ่อกี้ มองเห็นเลือดที่ไหลออกมาจากช่องด้านล่างของประตู

"ไบฮุย เจ้าไม่ละอายใจบ้างหรือ เจ้าเป็นถึงองค์ชายของรัฐอิสระ เจ้าจะลดตัวลงมาปล้นชิงข้าจริงๆรึ" ฮั่นหนิง พูดอย่างจริงจัง

"อั๊ยหยา ... ไอ้เรื่องแบบนั้นมันเลวร้ายเกินกว่าคนอย่างข้าจะทำได้นะ เฟย เจ้าช่วยฆ่าตัวตายเพื่อแสดงความเสียใจ ต่อคุณหนูหน่อยสิ" เสียงดังลอดออกมาจากจากหลังประตู เมื่อ โม่บ่อกี้ ได้ยินเสียงนี้ เขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นทั่วตัว หรือว่าผู้ชายคนนี้เป็นขันที

มีเสียงของอีกคนหนึ่งพูดว่า "ฮ่าๆ เดี๋ยวข้าจะฆ่าตัวตายละนะ เอามีดจี้ไว้ตรงคอแบบนี้ อั๊ยหยา ข้าตายแล้ว... "

"ข้าเข้าไปก่อน... " ติงบู้เอ้อพูดแล้วกระแทกประตูเต็มแรง
"ตุ้บ" นั่นเป็นเสียงของมีดที่แทงทะลุเข้าไปในเนื้อ แล้วก็มีเสียงคนล้มลงบนพื้น

โม่บ่อกี้ มองเห็นชายคนหนึ่งทรุดตัวลงจมกองเลือด มีดที่มือชายคนนั้นถือปักทะลุลำคอของเขาออกไป ไม่นาน โม่บ่อกี้ ก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผู้ชายคนนี้แกล้งทำเป็นฆ่าตัวตายและต่อมีดไว้กับคอ เขาไม่รู้ว่า ติงบู้เอ้อ จะกระแทกประตูเข้าไปทำให้ประตูกระแทกโดนมีด

จนทำให้มันตายลงไปจริงๆ

นอกจากผู้ชายคนนี้เเล้ว โม่บ่อกี้ ยังเห็น เผิงเหมาฮัว นอนอยู่บนพื้นเเละแขนข้างหนึ่งของเขาถูกตัดขาด

ฮั่นหนิง และ เชาหลาน นั้นเนื้อตัวเสื้อผ้าเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด และยังถูกชายสองคนกักให้อยู่ที่มุมห้อง

ชายที่แต่งตัวสุภาพไว้เครายาว มองไปที่ผู้ตายบนพื้นด้วยความตกใจ

"พวกเจ้าเป็นใคร ถึงกล้าฆ่าคนของข้า" ชายที่ไว้เคราเพิ่งรุ้สึกตัวแล้วพูดออกมาด้วยเสียงแหลมและแหบพร่า

            โม่บ่อกี้ แทบจะเอามือปิดหู เขาไม่คิดว่าผู้ชายที่หน้าตาดีเเละองอาจ จะมีเสียงที่แหลมและแหบพร่าเช่นนี้  จากการแสดงออก ชายคนนี้ต้องเป็นองค์ชาย ไบฮุย
แต่ในเวลานี้ โม่บ่อกี้ กลับไม่เห็นเพื่อนร่วมกลุ่มของ ฮั่นหนิง อย่าง เฉาเฮ้า หยางจุ้นสง และ โจวซู

"ปัง!" หยนเสิ่นยี ซึ่งเข้าห้องมาเป็นคนสุดท้ายปิดประตูอย่างแรง แม้ว่าเขาจะรู้ว่า อาจารย์เซียน จะไม่เอาเรื่อง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องดีที่คนอื่นจะรู้

"บู้เอ้อ เจ้าช่วยรักษาแผลให้หัวหน้าเผิงที " เมื่อเห็น เผิงเหมาฮัวกำลังเจ็บปวดอยู่บนพื้น โม่บ่อกี้ สั่งการด้วยความเศร้าใจ

นับตั้งแต่ที่พวกเขาฆ่าคนร้ายไปคนหนึ่ง โม่บ่อกี้ ก็เยือกเย็นและสงบลงมากเมื่อต้องเผชิญกับสิ่งต่างๆเหล่านี้

เมื่อ ติงบู้เอ้อ ใส่ยารักษาแผลให้ เผิงเหมาฮัว ที่กำลังเจ็บปวด  โม่บ่อกี้ เดินไปด้านหน้าของชายไว้เคราและพูดว่า "ข้าคือ โม่บ่อกี้ จาก ราวโจว"

โม่บ่อกี้ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก ต่อให้โง่ขนาดไหน ก็รู้ว่าทำไม โม่บ่อกี้ ถึงช่วย ฮั่นหนิง จากมุมมองของเขา โม่บ่อกี้ เป็นผู้คุ้มกันของ ฮั่นหนิง อย่างแน่นอน

"ข้าคือองค์ชายที่สิบหกของ รัฐจิ้นฮั่น ชื่อ ไบฮุย เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้าต้องการจะเป็นศัตรูกับข้า" ชายผู้นี้พยายามทำใจหให้เย็น ลงและพูดด้วยเสียงแหลมเล็กของเขา

โม่บ่อกี้ หัวเราะ "ข้าฆ่าคนของเจ้าไปแล้วเจ้าคิดว่าไงล่ะ"
"ถ้าเจ้าเลือกไปจากที่นี่แล้วไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องราวพวกนี้ ข้าจะไม่เอาเรื่องนี้อีก แล้วข้าจะเชิญเจ้าเข้ามาอยู่ใน รัฐจิ้นฮั่น ของข้า" ไบฮุย พูดเบาๆ พยายามทำให้เสียงของเขาดูอ่อนโยนและอบอุ่น เขาเข้าใจว่าว่า โม่บ่อกี้ และ หยวนเสิ่นยี เป็นคนที่จัดการได้ไม่ยากนัก โดยเฉพาะ หยวนเสิ่นยี ที่อยู่ด้านหลัง

ก่อนที่ โม่บ่อกี้ จะพูดอะไร หยวนเสิ่นยี ก็พูด่า "รัฐจิ้นฮั่น มันก็แค่เศษขี้หมาเท่านั้น ถ้าอยากจะให้ข้าเข้าร่วมกับท่านก็ไม่ยากนะ มาเลียเท้าข้าสิ"

ไบฮุย หน้าคว่ำหน้างอทันที เขาหันไปทางผู้ชายสองคนที่เฝ้าฮั่นหนิงไว้ แล้วพูดว่า "โจว สั่งสอนพวกมันสิ"

ชายที่มีใบหน้าดำรับคำ เขาควงมีดในมือไปมาขณะที่ค่อยๆเดินไปหา โม่บ่อกี้

"บ่อกี้ถอยออกมา ข้าจะสั่งสอนไอ้เด็กนี่เอง" หยวนเสิ่นยี ไม่เคยเห็นความสามารถของ โม่บ่อกี้ แต่เขาก็เดาเอาว่า โม่บ่อกี้ ไม่น่าจะมีฝีมือมากพอจะจัดการกับ โจว ได้

โม่บ่อกี้ สอดมือเข้าไปหยิบมีดสั้นประมาณหนึ่งฟุต จากในกระเป๋าของเขา   

            "เสิ่นยี ให้ข้าลงมือก่อนเถอะไว้ค่อยช่วยตอนข้าพลาดก็แล้วกัน"

ความจริงคือ โม่บ่อกี้ กับ หยวนเสิ่นยี อยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ได้ ในที่สุดก็จะมีสิ่งที่ โม่บ่อกี้ จำเป็นต้องจัดการด้วยตัวเองเหมือนวันนี้ โม่บ่อกี้ ยังตัดสินใจช่วย ฮั่นหนิง แม้ว่า หยวนเสิ่นยี จะไม่ช่วยเขา

ขณะที่ โม่บ่อกี้ กำลังพูดอยู่ โจว ได้หันมีดมาทาง โม่บ่อกี้ แล้ว ในสายตาของเขา ทั้งสามคนนี้เป็นแค่คนที่จะถูกฆ่าเท่านั้น และ เขาอาจจะฆ่าสามคนนี้ได้สบายๆ

โม่บ่อกี้ ไม่ได้รับการฝึกฝนหรือเพาะปลูกมา แต่เขามีประสบการณ์การต่อสู้อยู่บ้าง เขาใช้มีดสั้น เขาจำเป็นต้องเข้าใกล้ โจว มากกว่านี้ ขณะที่โจดี้กำลังกวัดแกว่งมีดของเขาอยู่ โม่บ่อกี้ จึงก้าวไปข้างหน้าวิ่งเข้าหาโจดี้ เขาใช้มีดปัดป้องมีดของ โจว  และใช้กำปั้นอีกข้างต่อยไปที่หัวของ โจว

"แก๊ง" เมื่อมีดทั้งสองปะทะกัน โม่บ่อกี้มองเห็นประกายไฟสีฟ้า แลบแปลบออกจากจากฝ่ามือของเขาไปที่มีดและไหลไปต่อที่มีดของ โจว

"พลั่ก" กำปั้นอีกข้างของโม่บ่อกี้ พุ่งเข้าที่ปลายคางของโจว โจวเหมือนก้อนหินที่ไม่มีชีวิต และ ร่วงลงกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง

โมอูจิตกใจ กับฝีมือจองตัวเอง โม่บ่อกี้ คิดว่า โจว จะโยกหัวหลบลงมา เพื่อหลีกเลี่ยงกำปั้นของเขา แล้ว เขาก็จะกอดคอของโจวไว้ แล้วกระหน่ำตีเข่า แต่เขาไม่ต้องทำอะไรมากมายอีกแล้ว เพราะ โจวร่วงลงไปบนพื้นแล้ว

เขาพิจารณากำปั้นของเขาและยังเห็นว่ามือที่ถือมีดยาวของ โจว มีรอยไหม้เล็กน้อย โม่บ่อกี้จึงนึกถึงประกายไฟสีฟ้า ที่ทำให้เขานึกถึงฟ้าผ่าที่ทะเลสาบหมอกสายฟ้า

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โม่บ่อกี้ จึงเข้าใจว่า เมื่อหลังจากยืมพลังของสายฟ้าเพื่อเปิดเส้นชีพจรของเขา ทำให้มีพลังงายไฟฟ้าตกค้างอยู่ในเส้นชีพจรของเขา ไม่ต้องสงสัยว่าทำไม โจว จึงไม่หลบหลีกเมื่อ โม่บ่อกี้กำลังชกเขาและไม่แม้แต่จะพยายามหลบเลี่ยงหมัดของ โม่บ่อกี้ บางที โจว อาจจะตกใจกับแสงฟ้าผ่าจากมีดของ โม่บ่อกี้ นี่เป็นเหตุผลที่การโจมตีของ โม่บ่อกี้ ประสบความสำเร็จ

"จูเท้ง เอาตัว โจว กับ เฟย ขึ้นมาพวกเราจะไปแล้ว" ไบฮุย ออกคำสั่งทันที เขารู้ว่าคนที่เหลือไม่เพียงพอที่จะจัดการผู้คุ้มกันของ ฮั่นหนิง

โม่บ่อกี้ ไม่ได้ขัดขวางพวกเขา หยวนเสิ่นยี มาที่นี่เพื่อช่วย โม่บ่อกี้ เมื่อเห็นว่า โม่บ่อกี้ไม่ขัดขวาง ไบฮุย เขาจึงไม่ได้ทำอะไรเช่นกัน ไบฮุย เปล่งแสงสว่างจางๆออกมาจากตัว แล้ววิ่งออกจากห้องของ ฮั่นหนิง ด้วยความเร็วสูง

"บ่อกี้ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะเก่งขนาดนี้ ข้าไม่สงสัยแล้วว่าทำไมเจ้าถึงอยู่รอดในป่าหมอกสายฟ้าได้" ติงบู้เอ้อ พูดออกมาด้วยความประหลาดใจ จนลืมไปเลยว่าต้องช่วยทำแผลให้ เผิงเหมาฮัว ใบหน้าของ หยวนเสิ่นยี เต็มไปด้วยความสุข เขาไม่ไม่รุ้เลยว่า โม่บ่อกี้ มีฝีมือขนาดนี้ เขามั่นใจว่าสามารถจัดการกับโจวได้ แต่คงไม่ใช่ในหมัดเดียว
"ผู้ปรุงยาโม่ ข้าขอขอบพระคุณท่านอย่างสูง ข้าเสียใจอย่างยิ่งกับเรื่องที่ข้าเคยทำลงไป" ฮั่นหนิง รู้สึกอับอาย เมื่อนาตกอยู่ในอันตรายที่สุด สหายของนางที่ขอให้ขับไล่ โม่บ่อกี้ ออกไปไม่มีใครมาช่วยนางเลย แต่กลับเป็น โม่บ่อกี้ ที่มาช่วยนาง

โม่บ่อกี้ พูดอย่างเยือกเย็นว่า "นายท่าน เคยช่วยชีวิตข้าไว้ก่อน ท่านก็ถือว่าการกระทำของข้าในวันนี้เป็นการตอบแทนหนี้บุญคุณของข้ากับเขา เมื่อเราไปถึง เฉิงลู่ แล้วพวกเราจะแยกไปตามทางของเรา"

"ว่าแต่ ไบฮุย มาที่นี่เพื่อจะชิง หญ้าอัคคีสองใบ ของเราเขารู้ได้อย่างไรว่าเรามีหญ้าอัคคีสองใบ... " เผิงเหมาฮัว ตื่นขึ้นมาและพูดด้วยเสียงแหบแห้ง


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

แมวอ้วน : ตี3ครึ่ง ให้ตูนั่งแปลคนเดียว จำไว้นะเมิง
ไก่ต้มน้ำปลา(ในตำนาน) : ZZZzzz…
แมวอ้วน : แง่มๆๆ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น