วันเสาร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2561

บทที่ 40: แยกย้าย


บทที่ 40: เเยกย้าย

 Immortal  จอมราชันย์อัมตะ
                  ผู้แต่ง: Goose Five  ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน

 หากชอบก็ฝากบอกต่อเพื่อนๆให้มาอ่านเป็นกำลังใจให้ผู้แปลทั้งสองคนด้วยครับ
นี้กลุ่มเฟสครับถึงตอนไวกว่าประมาณ สาม ตอนครับ



ไก่ในตำนาน และ แมวอ้วน แปล

ผ่านไป ยี่สิบนาที หยวนเสิ่นยี นำทุกคนไปด้านหลังเนินเขา ด้วยความสว่างของแสงจันทร์ จึงช่วยให้พวกเขาสามารถสังเกตการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน

เมื่อพวกเขาได้เห็นการต่อสู้ โม่บ่อกี้ ถึงได้รู้ตัวว่าไม่มีทางเลยที่ความคิดที่จะลอบสังหารพ่อค้าทาสในความมืดด้วยคนเดียวจะสำเร็จ แม้จะมีเจ็ดแปดคนที่เสียชีวิตอยู่ข้างล่าง แต่พ่อค้าทาสก็มีผู้คุ้มกันที่เข้มแข็งอย่างมาก เขากำลังต่อสู้กับคนอื่นอีกสองคนซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เจี่ยจิง

เจี่ยจิง ที่มาพร้อมกับคนสองผู้ในตอนแรกนั้น แต่หนึ่งคนถูกฆ่าตายไปเสียแล้ว

"ข้าประมาทมันมากเกินไป หากข้ามาเพียงผู้เดียวข้าก็ไม่มีทางลอบสังหารได้สำเร็จเเน่ๆ" โม่บ่อกี้ ถอนหายใจ

หยวน เสิ่นยี ตอบว่า "เจ้าอย่าตำหนิตัวเองเลย พ่อค้าทาสนี้ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่ายๆ มันเป็นเรื่องปกติที่มันจะว่าจ้างผู้คุ้มที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องตัวเอง"

ผ่านไปสักครู่ เจี่ยจิง ก็เอามีดฟันเข้าไปที่ไหล่ของผู้คุ้มกันที่เหลือ ในเวลาเดียวกันสหาย เจี่ยจิง ถูกเเทงทะลุผ่านเอวด้วยดาบยาวของผู้คุ้มกัน
เจี่ยจิง และสหายของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก เหลือเพียงพ่อค้าทาสคนเดียว  เจี่ยจิง วิ่งตามไปเเละใช้ดาบฟันที่หัวของพ่อค้าทาสอย่างเเรง

พ่อค้าทาสได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงทรุดนั่งอยู่บนรถม้า และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือเเต่อย่างใด มันรู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะขอความช่วยเหลืออีก    

"ได้เวลาแล้ว" หยวนเสิ่นยี พูดจากสัญชาติญาณของเขา แล้วไถลลงจากเนินเขาเหมือนกับแม่ทัพใหญ่  

เจี๋ยจิ่ง ที่เพิ่งพลาดท่าฝ่ายตรงข้ามมา จึงเหน็ดเหนื่อยมาก เมื่อเขาเห็น หยวนเสิ่นยี กำลังเข้ามา
     
"แย่แล้.." หลังจากตะโกนออกมา  เจี๋ยจิ่งก็เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ล้มลงกับพื้น

"เจ้าเป็นใคร พวกเจ้าจะทำอะไรข้า ข้าทำงานให้กับเจ้าเมืองซวนลาหู่นะ ข้าจะปล่อยเจ้าไปถ้า... "

คำพูดของ เจี่ยจิ่ง ถูกขัดจังหวะเมื่อเขาเห็น โม่บ่อกี้ ลงมาจากเนินเขา

เขาจำ โม่บ่อกี้ ได้และยังจำผู้หญิงสองคนที่อยู่ข้างหลังได้ นั่นคือ โม่เซี่ยงตง และ จิ้งเหล็งไป๋ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าชีวิตของเขาจบลงแล้ว การปรากฏตัวของ จิ้งเหล็งไป๋ แสดงว่าพวกเขากล้าที่จะทำร้าย ท่านอ๋องน้อย แล้วทำไมพวกเขาจึงไม่กล้าที่จะฆ่าเขา
"โพละ" เมื่อเจี่ยจิงหยุดคิด หยวนเสิ่นยี เหวี่ยงขวานสับหัว เจี่ยจิ่ง เเยกออกจากกัน

หยวนเสิ่นยี เดินไปยังสหายที่ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักของเจี่ยจิงและสับลงด้วยขวานอีกคน

น้าสิบเอ็ดหัวเราะและพูดกับโม่บ่อกี้ ว่า "บ่อกี้ ดูนั่นสิเราไม่ต้องช่วยเขาเลยด้วยฝีมือของ เสิ่นยี เจ้ากุ้งแห้งสองตัวนั่นไม่พอมือเขาหรอก"

ถึงแม้ว่าโม่บ่อกี้เคยผ่านวิกฤติชีวิตและความตายในป่าหมอกสายฟ้ามาเเล้วเเต่เขาไม่เคยเห็นฉากนองเลือดเช่นนี้มาก่อน จึงอึ้งไปพักหนึ่งเพราะปรับตัวไม่ทัน

"ขอขอบคุณนายท่านที่ช่วยเหลือ หากไม่ได้ท่านมาช่วยไว้  ข้าคงเสียชีวิตไปแล้ว ข้ายินดีที่จะให้ทรัพย์สินทั้งหมดของข้าที่นี้  เพื่อเป็นการตอบแทนสำหรับพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยชีวิตข้า ... " โม่บ่อกี้ ไม่คิดว่าพ่อค้าทาสจะยืนขึ้นและขอบคุณเขา สำหรับการช่วยชีวิต

โม่บ่อกี้ ไม่เชื่อได้ว่าเจ้าอ้วนนี่จะคิดว่าเขาอยู่ที่นี่เพื่อช่วยมัน โม่บ่อกี้ อดที่จะชื่นชมในความโง่ของเจ้านี่ไม่ได้

"เจ้าอ้วน เจ้ามองโลกในเเง่ดีเกินไป ข้าขอถามเจ้าว่า เจ้าพบเเม่นางทั้งสองคนนี้ที่ไหน  เจ้าไม่ต้องกังวลและหาข้อแก้ตัวไป ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอกถ้าเจ้าตอบมาตามความจริง หรือถ้าเจ้าไม่พอใจ จะเลือกเอาความทรงจำอันแสนหวานที่ ข้าจะไม่ฆ่าเจ้าแต่จะถลกหนังแล้วเลาะเส้นเอ็นออกมาทั้งเป็นแทน"

"จากโจรขโมยม้า เฮ่ย เหว่ยเฟิง ในเขตของรัฐ หวูเซีย... "

"เช่นนั้น เฮ่ยเหว่ยเฟิง เป็นคนที่ทำลาย ตะกูลจิ้ง ด้วยเช่นนั้นรึ?" โม่บ่อกี้ถาม ถามในนามของ จิ้งเหล็งไป๋ ขณะนั้นเขาเห็นนางกำลังตัวสั่นอยู่ข้างๆเขา

"ข้าไม่รู้ข้าไม่รู้จริงๆ" เจ้าพ่อค้าทาสอ้วนที่ชื่อ ย่งหย่ง พูดซ้ำไปซ้ำมา

โม่บ่อกี้มองไปที่ จิ้งเหล็งไป๋ และกล่าวว่า "ข้าเดาว่า เฮ่ยเหว่ยเฟิงเป็นผู้กระทำและไม่มีสิ่งที่ต้องถามอีกต่อไป"

จิ้งเหล็งไป๋ ทรุดลงร้องไห้กับพื้น นางเคยได้ยินชื่อเสียงอันอื้อฉาวของ เฮ่ยเหว่ยเฟิง และ ความเลวทรามของมันมาก่อน
           
โม่บ่อกี้ ใช้ดาบสั้นที่อยู่ในมือตัดหัวของย่งหย่งออกจากตัว เลือดที่สาดกระเซ็นทำให้เขารู้สึกกระอักกระอ่วนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเขารู้ว่ามีบางอย่างที่ต้องทำ ความจริงที่ว่า เจ้าอ้วนเป็นคนที่ค้าขายหญิงสาวเหล่านี้ นั่นทำให้ โม่บ่อกี้ โกรธมากไม่ต้องพูดถึง คนอีกคนหนึ่งคือ โม่เซียงตง

หยวนเสิ่นยี ค้นเหรียญทองและเงินออกจากร่างของพ่อค้าทาส นอกจากตั๋วทองคำแล้วเขายังได้เหรียญทอง หนึ่งหมื่นหกพันเหรียญและเหรียญเงินอีกไม่กี่พันเหรียญ

หยวนเสิ่นยี ส่งเหรียญทองทั้งหมดไปให้ โม่บ่อกี้ เพราะนี่เป็นความคิดของโม่บ่อกี้

 โม่บ่อกี้ไม่ได้เก็บเหรียญทองไว้เเต่อย่างใด เขาหยิบเหรียญทอง สองหมื่น เหรียญออกมาแบ่งเงินออกเป็นสามส่วนดังนี้ น้าสิบเอ็ด โม่เซียงตงและจิ้งเหล็งไป๋ "น้าสิบเอ็ด รีบพาพวกเขาออกไปจากที่นี่! "

"เข้าใจแล้ว" น้าสิบเอ็ดไม่เสียเวลาอีกต่อไป นางเก็บตั๋วทองคำไว้

โม่เซียงตง รู้ว่า โม่บ่อกี้ ต้องการไปที่เมืองหลวง แต่ไม่สามารถพานางไปด้วยได้ คู่กับความจริงที่ว่า โม่บ่อกี้ มาจากตระกูล โม่ นางไม่ได้พูดมากและเก็บเหรียญทองไว้อย่างลังเล

จิ้งเหล็งไป๋ ตระหนักว่านางอาจทำให้น้าสิบเอ็ดไม่พอใจถ้านางไม่ยอมรับเงินเพื่อให้น้าสิบเอ็ดไม่ตำหนินางจึงรับเหรียญทองไป

"บ่อกี้ วันข้างหน้า... " โม่เซียงตง มอง โม่บ่อกี้ ด้วยความลังเลใจบางอย่าง
โม่บ่อกี้ พูดด้วยเสียงอันแกร่งกร้าวว่า "วันข้างหน้าถ้าข้ามีความสามารถข้าจะต้องล้างแค้นให้ตระกูลโม่"

อย่างไรก็ตามโม่บ่อกี้ไม่ได้กล่าวว่าเขาจะยอมแพ้ถ้าเขาไม่มีความสามารถพอ

"ไปเถอะ" น้าสิบเอ็ดพูด แล้วขึ้นม้า นางเป็นคนตรงไปตรงมาเสมอกับสิ่งที่นางพูดหรือทำ

จิ้งเหล็งไป๋ เดินไปถึง โม่บ่อกี้ และ หยวนเสิ่นยี นางคราวะและขึ้นม้าโดยไม่พูดอะไรสักคำ

"ข้าชื่นชม จิ้งเหล็งไป๋ จริงๆบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดๆ" หยวนเสิ่นยี กล่าวด้วยความชื่นชมในขณะที่เขาเฝ้าดูพวกเขาทั้งสามคนจากระยะไกล หลังจากที่เสียงของทั้งสามคนหายไปใต้แสงจันทร์

หยวนเสิ่นยี กล่าวว่า "ไปเถอะเราจะออกจากที่นี่"

โม่บ่อกี้มองไปที่ศพเจี่ยจิ่งแล้วพูดว่า "เราทิ้งศพคนอื่นไว้ได้ แต่ต้องซ่อนศพของเจี่ยจิ่งไว้"

หยวนเสิ่นยี ที่เข้าใจเหตุผลทันทีก็หัวเราะขึ้นและกล่าวว่าบ่อกี้ เจ้าเป็นคนที่รอบคอบมาก เป็นข้าคงคิดไม่ถึง


ความวุ่นวายโกลาหนในยามราตรีก็จางไปและตอนเช้าริมทะเลก็ดูเงียบสงบเช่นเดิม

"อ๊า!!! ... " เสียงกรีดร้องดังออกไปนอก โรงเตี๊ยมเยว่ไฮ่ คนเฝ้าประตูรีบไปดูว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น

คนเฝ้าประตู  เคาะประตูห้องที่ สิบเจ็ดเเละถามว่า "มีอะไรให้ข้าช่วยหรือไม่ครับท่าน

ช่วงเวลานี้แทบทุกคนที่พักอยู่ในโรงเตี๊ยมเยว่ไฮ่ ที่พักอยู่ในห้องเหล่านี้อาจเป้นท่านอ๋องหรือองค์ชาย ดังนั้นแม้ว่าจะเป็นอ๋องน้อยหรือองค์ชายน้อย แต่เมื่ออยู่ที่นี้ก็ไม่ได้มีความสำคัญสักเท่าไหร่

โตวป่าชี ตะโกนด้วยความโกรธ "มีคนลอบทำร้ายข้า มันหนีออกไปเมื่อวานนี้ ... ไม่สิ ทาสของข้าก็ออกไปด้วย ... เดี่ยวนะ ...เจี่ยจิ่ง อยู่ที่ไหนทำไม เจี่ยจิ่ง ไม่กลับมา"

หลังจากจบประโยค โตวป่าชี ก็สงบลงขณะที่เขานึกถึงสิ่งที่เขาสั่งให้ เจี่ยจิ่งทำก่อนที่เขาจะถูกตีสลบ แม้ว่าเขาจะเป็นอ๋องแห่งเมืองเล็กๆ เขาก็จะไม่มีทางหนีรอดถ้ามีคนพบว่าเขาสั่งคนให้ลอบสังหารพ่อค้าทาส

"ไม่มีอะไร ข้าแค่ฝันร้าย" โตวป่ากี โบกมือขณะที่เขาสั่งให้คนเฝ้าประตูออกจากห้องไป

คนเฝ้าประตูแสดงอาการเหยียดหยามในขณะที่เขาหันหลังออกและเดินออกไป โดยไม่สนใจอ๋องน้อยผู้นี้

//////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
แมวอ้วน : ลมหนาวมาเมื่อไร เดือนเมษาหนาวได้งั๊ย หนาวว้อย!!!
ไก่ในตำนาน : ประเทศไทยสามฤดู ท่าน ไม่รู้จักรึ อิอิ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น