วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 26: ทะเลสาบฟ้าผ่า


บทที่ 26: ทะเลสาบฟ้าผ่า
โม่บ่อกี้ วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้จนกระทั่งเขาไม่สามารถได้ยินเสียงฟ่อของงู หลังจากที่เขาหันกลับมาและตระหนักว่างูพิษทะลายใจ  ไม่อยู่ในสายตาอีกแล้วเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกสั้น อย่างไรก็ตามที่ด้านหลังของเขา

โม่บ่อกี้ รู้ว่าเขาปลอดภัยเเล้ว
หมอกหนาและต้นไม้สูงที่ล้อมรอบทำให้ไม่สามารถเห็นท้องฟ้าได้
ในขณะนี้เขาแน่ใจว่าเขาได้ผ่านเขตชานเมืองเข้าไปในส่วนลึกของป่าหมอกสายฟ้าแล้ว

โม่บ่อกี้ รู้ว่าไม่ต้องกังวลว่าจะพยายามหายามอื่น ที่มาพร้อมกับ ฮั่นหนิง เขาต้องออกไปในเวลาอันสั้นที่สุด
แม้ว่าเขาจะไม่เคยเข้าป่าหมอกสายฟ้ามาก่อน แต่เขาเชื่อทุกเรื่องเกี่ยวกับป่าแห่งนี้ เขารู้สึกกระวนกระวายจากช่วงเวลาที่เขาเข้าไปในป่า

"คลื่ม…." ต้นไม้ใหญ่หล่นลงมาและมีหมอกถูกแบ่งเป็นสองทาง ด้วยความช่วยเหลือของแสงสลัวในป่าทำให้โม่บ่อกี้ สามารถมองเห็น เงาสองเงา ได้สลัวๆ

โม่บ่อกี้  รู้สึกเสียวแปลบขึ้นบนหัวของเขา มันเป็นสัตว์อสูรสองตัวที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน หนึ่งในนั้นมีดวงตาสามดวงเต็มไปด้วยเกล็ดในขณะที่อีกตัวหนึ่งดูเหมือนสิงโตมีเลือดและขนอยู่รอบตัว  มีเขี้ยวที่ยาวออกมาจาปาก
ทั้งสองสัตว์อสูรนี้ไม่ได้สังเกตเห็น โม่บ่อกี้ และไม่ได้สนใจเขา
"เสียงคำราม ... " เสียงคำรามที่น่าสยดสยองของสัตว์ป่าสองตัวทำให้หัวใจขอ โม่บ่อกี้ เต้นเร็วมาก

โชคดีสำหรับโม่บ่อกี้ นี่ไม่ใช่แค่สัตว์อสูรตัวหนึ่งเท่านั้นเพราะมันจะทำให้เขาสังเกตเห็นได้ง่าย ขณะที่ โม่บ่อกี้ ถอยห่างออกไปอย่างช้าๆสัตว์สองตัวอยู่ในสายตาของเขาเสมอ พวกมันต้องเป็นสัตว์อสูรที่ ติงบู่เอ้อ กล่าวก่อนหน้านี้อย่างแน่นอนเป็นที่มีจำนวนมากภายในป่าลึก

ขณะที่ โม่บ่อกี้ ถอยกลับเขารู้สึกว่าเท้าของเขาเย็นลง เขาตระหนักว่าเขาสนใจสัตว์อสูร มากเกินไปและไม่ต้องห่วงว่าจะมีอะไรตามมาจากด้านหลังเขา

," เปลี้ยง! ... " ประกายสายฟ้าผ่าไม่ไกลเกินไปจาก โม่บ่อกี้ ทำให้พื้นที่รอบๆสว่างขึ้น
ในขณะนี้เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาอยู่ที่ไหนและตระหนักว่าเขาได้ก้าวเข้าสู่กลางบึงน้ำตื่น

" เปลี้ยง...เปลี้ยง "สายฟ้าสายแลบผ่าข้าม  โม่บ่อกี้ เหมือนกับสะพานโค้งที่เป็นสายฟ้าที่น่าสนใจมาก
หัวใจของ โม่บ่อกกี้ จมลงสู่จุดต่ำสุดเมื่อเขารู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน นี่คงจะเป็นทะเลสาบฟ้าผ่า ที่น่ากลัวที่ ติงบู่เอ้อ เตือนเขา



หลังจากถอนหายใจยาวๆแล้ว โม่บ่อกี้ ก็สงบลง เขาได้เห็นสัตว์ร้ายและตอนนี้อยู่ในทะเลสาบฟ้าผ่าของ ป่าหมอกสายฟ้า มันคงจะเป็นความมหัศจรรย์ถ้าเขาสามารถกลับออกไปได้อย่างมีชีวิตได้

เท้าของโม่บ่อกี้ รู้สึกหนาวจัดเพราะจมลงในดินที่หนาวจัดของทะเลสาบฟ้าแลบ ไม่มีใครรู้ว่าสิ่งที่น่ากลัวอื่น ที่มีอยู่ในทะเลสาบฟ้าผ่านี้นอกเหนือจาก ความเกลียวกลาดของสายฟ้าแล้ว  แต่โม่บ่กี้ไม่กลัวอะไรอีกต่อไปเพราะเขารู้ว่าเขาคงจะตายไปแล้ว เขาขยับเท้าอย่างระมัดระวังขณะที่พยายามจะเดินออกจากบึง

เพราะอย่างน้อยเขาควรพยายามที่จะต่อสู้เพื่อชีวิตของเขาแม้ว่าเขาจะตายก็ตาม

"เปลี้ยงง... " สายฟ้าฟาดขึ้นมา อย่างไรก็ตามโม่บ่อกี้ ก็ไม่ได้โชคดีเท่าไหร่ มันฟาดลงมาบนไหล่ของเขา
โม่บ่อกี้รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่รุนแรงทำให้ร่างกายของเขาอ่อนแรงและล้ม


เสื้อผ้าของโม่วบ่อกี้  ถูกฉีกออกเป็นชิ้น และทำให้เขารู้สึกได้ถึงผิวของเขาที่ไหม้เกรียมเพราะร่างกายของเขาหมดไม่เหลือสภาพเดิมเลย เขาเยาะเย้ยตัวเองในขณะที่เขาไม่เคยคาดหวังว่าตัวเองจะถูกไฟฟ้าดูดในชีวิตที่สองของเขา เขาค่อนข้างจะผ่านบางสิ่งที่ไร้ความปราณีที่ฆ่าเขาได้ทันทีกว่านรกที่มีชีวิตนี้

ประกายสายฟ้าที่ยิ่งใหญ่พุ่งผ่านเขา อย่างไร้ความปราณี

เปลี้ยง ... " สายฟ้าฟาดกระแทกไหล่ของ โม่บ่อกี้ อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม โม่บ่อกี้ ไม่รู้สึกเจ็บปวดใด
ไม่เพียงแค่นั้น  โม่บ่อกี้ เห็นได้ชัดว่าสายฟ้าพาดผ่านไหล่ของเขาเข้าไปในร่างกายของเขาโดยตรงเข้าไปล้างบางสิ่งบางอย่างที่เปิดอยู่

ช่วงเวลาต่อไปร่างกายของเขารู้สึกผ่อนคลาย เมื่อโม่บ่อกี้ เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นในที่สุดเขาก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
สายฟ้าฟาดได้เปิดช่องว่างเล็ก ในเส้นชีพจรที่อุดตัน ซึ่งเขาเกือบจะสามารถเปิดได้โดยสมบูรณ์ ถ้าสายฟ้าที่เกลี้ยวกลาดผ่า เข้าช่องว่างเล็ก อย่างต่อเนื่องหมายความว่าเส้นชีพจรที่ถูกอุดตันจะถูกเปิดอย่างเต็มที่ รึไม่? เมื่อเส้นชีพจรถูกชำระล้างแล้วนั่นหมายความว่าเขาจะมีช่องทางจิตวิญญาณและในที่สุดก็สามารถที่จะบ่มเพาะพลัง?

หลังจากถูกลอบสังหารหลายต่อหลายครั้ง  โม่บ่อกี้ เหมือถูกไฟไหม้ภายในอก เขาตัดสินใจที่จะไม่หนีอีกต่อไป เขาจะอยู่และรอให้สายฟ้าที่เกลี้ยวกลาดผ่าใส่เขา

"เปลี่ยง..เปลี้ยง. " อีกสองสายฟ้าลั่นออกมาจากด้านหลังและทำให้เขาล้มลงอีกครั้ง
แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองสายฟ้าที่ลั่นออกมาก่อให้เกิดความเจ็บปวดมากขึ้นและไม่ได้ให้เขารู้สึกเหมือนกำลังชำระเพื่อเปิดช่องจิตวิญญาณ

เป็นที่น่าสงสารโม่บ่อกี้ ไม่สามารถควบคุมสายฟ้าที่จะฟาดใส่เขา

หลังจากที่เขาได้รับประสบการณ์อีกหลายครั้งจากสายฟ้าฟาด   เขาก็ตระหนักว่านี่ไม่ใช่ทางที่จะไป ก่อนที่เขาจะสามารถเปิดเส้นชีพจร ได้สำเร็จเขาจะตายจากความเจ็บปวดเสียก่อน

โม่บ่อกี้ หยิบขวด ยาเปิดช่องจิตวิญญาณ ออกจากกระเป๋าที่ฉีกขาดและใช้มัน มันทำให้รู้สึกเหมือนเกิดไฟลุกลามผ่านเส้นชีพจรที่ปิดอยู่ในร่างกายของเขา

"เปลี้ยง ... " อีกสายฟ้าฟาดใส่เขา โม่บ่อกี้ พยายามทำให้แน่ใจว่าสายฟ้าพุ่งเข้าสู่เส้นเส้นชีพจรด้วยกรณีใด

โม่บ่อกี้ ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเพราะความรุนแรงของสายฟ้า หรือเพราะยา  ที่สามารถทำให้สายฟ้าสามารถทะลวงผ่านเส้นชีพจรได้  บางทีอาจเป็นเพียงผลกระทบทางจิตวิทยาที่โม่บ่อกี้ รู้สึกว่าจุดชีพจรของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อยก็เป็นได้

อีกสายฟ้าลั่นตามอีกครั้งหนึ่ง มันฟาดลงมาที่ตรงกับบริเวรเส้นชีพจรพอดี 

 เส้นชีพจรถูกเปิดขึ้นเพราะเหตุนี้!!      เนื่องจากการโดนฟ้าผ่าทำให้เกิดการเผาไหม้ ยาจึงละลายไปทั่วร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
มันควรจะได้รับผลกระทบจากการใช้ยา ที่เป็นตัวนำสายฟ้าฟาดเข้าทะลวงผ่านเส้นชีพจรเดิม

ในขณะนี้เขารู้สึกว่าการ ฤทธิ์ของยาในร่างกายของเขาค่อยๆหายไป โม่บ่อกี้ ไม่ลังเลที่จะกินอีกขวด
"เปลี้ยงๆๆๆๆ ... " สายฟ้านับสิบ ฟาดลงอย่างต่อเนื่องบนร่างกายของโม่บ่อกี้อย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาก็รู้สึกผ่อนคลายมากถึงแม้ว่าเขาจะถูกสายฟ้าฟาดลงนับไม่ถ้วนแล้ว แต่เขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาเต็มไปด้วยพลังงานในขณะนั้น ก็มีความ รู้สึกเสียดายเช่นกันที่เขาไม่สามารถแสดงพลังนี้ได้เนื่องจากร่างกายของเขารู้สึกเจ็บปวดและเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก

โม่บ่อกี้ แทบจะไม่สามารถควบคุมน้ำตาของเขาได้ ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จในการเปิดจุดชีพจรสร้างช่องทางจิตวิญญาณอันแรกของเขาได้

Immortal  จอมราชันย์อัมตะ

                  ผู้แต่ง: Goose Five  ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน


ตอนนี้ปรับแก้ เรื่องเนื้อหาที่ยาวให้เเล้วนะครับ เนื่องจาก เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ
 ปล.ตอนนี้ เรื่องตำเเหน่งขุนนาง ทั้งเก้า ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ จึงอาจต้อมีการเปลี่ยนแปลง
     ในตอนนี้กำหนดให้ ฮั่นเฉิง เป็นเจ้าเมืองไปก่อน หากได้ความใช้เจนจะเปลี่ยนให้ ต่อไปครับ
     ปล.ชื่ิอ พระเอก เปลี่ยนจาก โม่หวู่จิ้ เป็นโม่บ่อกี้ ครับ (ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา)


ฝากคอมเมนให้กำลังใจ ด้วยครับ จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่  









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น