วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 22: เข้าร่วมตำหนักตะกูล ฮั่น


บทที่ 22: เข้าร่วมตำหนักตะกูล ฮั่น

ปล.ตอนนี้ เรื่องตำเเหน่งขุนนาง ทั้งเก้า ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ จึงอาจต้อมีการเปลี่ยนแปลง
ในตอนนี้กำหนดให้ ฮั่นเฉิง เป็นเจ้าเมืองไปก่อน หากได้ความใช้เจนจะเปลี่ยนให้ ต่อไปครับ
ปล.ชื่ิอ พระเอก เปลี่ยนจาก โม่หวู่จิ้ เป็นโม่บ่อกี้ ครับ
"นายน้อย โม่ เจ้ากลับมาแล้ว   สาวน้อยย่านเอ้อ อยู่ที่ไหนรึ? " โม่หวู่จิ้เห็นป้าลู่กำลังดันรถเข็นเล็ก ๆของนาง  ขณะที่เขามาถึงห้องเช่าซึ่งเขาและย่านเอ็อเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาเป็นเวลานาน ป้าลู่เห็น โม่หวู่จิ้และรู้สึกประหลาดใจ จากสิ่งที่นางได้ยินมา ว่าสภาพจิตของโม่หวู่จิ้ ดูเหมือนจะดีขึ้นเป็นอย่างมาก

โม่บ่อกี้  ยกมือคำนับด้วยความเคารพ "ป้าลู่ ข้าขอขอบคุณสำหรับการดูแลข้าและ ย่านเอ้อในทุกๆปีที่ผ่านมา แต่ว่าตอนนี้ ย่านเอ้อ ถูกพรากไปจากข้านานเเล้ว เเละข้าก็จะจาก ราวโจว ไปด้วยเช่นกัน วันนี้ข้าเพียงเเค่กลับมาเก็บของ ของย่านเอ้อเท่านั้นเเละข้าก็จะจากไปแล้ว "

นี่เป็นครั้งแรกที่ โม่บ่อกี้ สังเกตเห็นป้าลู่ (ลู่หลิง) ซึ่งนางเป็นหญิงที่ค่อนข้างดำขำและดูเหมือนจะมีอายุเกินสามสิบปี ด้วยความเครียดในการใช้ชีวิตได้ทิ้งรอยมากมายบนใบหน้าของนางและรอยย่นเหล่านี้ก็ครอบคลุมตลอดใบหน้าเดิมที่สวยงามของนาง

เมื่อเห็นป้าลู่ที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า โม่บ่อกี้ อดสงสัยไม่ได้ว่า งานที่ร้านเมื่อคืนนี้อาจไม่ดีนัก  "

ดีจังดีจัง ถึงแม้ว่า ย่านเอ้อจะโตขึ้นมากแล้ว  เเต่นางก็ยังเด็กเกินไปและต้องการให้ใครสักคนดูแลนาง ... "ป้าลู่ กล่าวจบก็เงียบไปไม่พูดอะไรอีกในขณะนี้ ย่านเอ้อ ควรจะต้องมีใครดูแลนาง แต่ในความเป็นจริงแล้ว  นางคือผู้ดูแล นายน้อย คนนี้ที่ยืนต่อหน้าป้าลู่

"เข้าไปข้างในสิ  ข้าได้ปิดห้องนี้ไว้สำหรับเจ้า ตลอดเวลาที่ผ่านนี้" ป้าลูดันรถเข็นของนางออกไปหลังจากที่พูดจบประโยค

โม่บ่อกี้ เดินเข้าไปในห้อง  เเละเก็บของที่ไม่ได้ถูกล๊อคและถูกยึดด้วยเชือกเท่านั้น กองฝุ่นฟุ้งเข้ามาหาเขา ไม่กี่เดือนที่ไม่ได้ใช้ห้องนี้และตอนนี้ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยฝุ่น

โม่หวู่จิ้ อยู่ที่นี่เพียงสองคืนที่ผ่านมาแล้วเขามีเตียงเดียวและผ้าห่มที่ดีอันหนึ่ง แต่ในด้าน ย่านเอ้อ นั้นมันเป็นเรื่องน่าสังเวชมากนอกเหนือจากกองเสื้อผ้าเก่าที่ขาดรุ่งริ่งแล้วก็ไม่อะไรอีก นั่นหมายความว่า ย่านเอ้อ ไม่ได้มีผ้าเเม้เเต่จะนอนในเวลากลางคืน

มีความโศกเศร้ามากมายเกิดขึ้นในหัวใจของโม่บ่อกี้  การที่ได้พบกับหญิงสาวนางหนึ่งดั่งเช่น ย่านเอ้อ ถือได้ว่าเป็นการใช้ความดีที่เขาสะสมไว้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาถูก มาอยู่ในร่างใหม่

 โม่บ่อกี้รู้ว่าหญิงที่หาดูได้ยากเช่น ย่านเอ้อเป็นเช่นไร เขาค่อยๆหยิบเสื้อผ้าชิ้นล่าสุดของ ย่านเอ้อ ไว้ก่อนใส่ลงในกระเป๋าของเขา จากนั้นเขาก็เห็นสลักที่ด้านล่างของกองนี่คือกิ๊บปิ่นปักถักร้อยที่โม่ บ่อกี้ ไม่เคยนึกถึง ย่านเอ้อเลยแม้แต่น้อยและถึงแม้จะเป็นแค่โลหะธรรมดาแต่ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเครื่องเพชรพลอยที่มีค่าที่สุดของย่านเอ้อโม่หวู่จิ้ห่อหุ้มกิ๊บเดินไปที่กระจกซึ่งมีรอยขีดข่วนอยู่มากมายนี่เป็นอุปกรณ์แต่งหน้าเฉพาะของ ย่านเอ้อ เท่านั้นบางทีกระจกนี้จะเป็นสิ่งที่ย่านเอ้อ ใช้ในการแต่งตัวสำหรับเขา

ด้วยการถอนหายใจครั้งสุดท้าย โม่ บ่อกี้เก็บกระจกไว้ในกระเป๋าของเขาด้วยเมื่อมองผ่านห้องเก็บสิ้นค้าขนาดเล็ก โม่บ่อกี้ ก็เดินออกไป" นายน้อย โ่ม่   ตอนนี้ย่านเอ้อไม่ได้อยู่ช่วยเจ้าเเล้วทำไมไม่มากินอาหารกับข้าล่ะ?" นอกห้องรับแขกโม่หวู่จิ้เห็นป้าลู่ที่พันผ้าพันคอพันรอบคอของเธอ
โม่บ่อกี้คำนับป้าลู่ อีกครั้งด้วยความเคารพ เขาหยิบถุงผ้าและส่งให้ป้าลู่ พร้อมกับพูดว่า "ป้าลูผมจะออกจากราวโจวเร็วๆ นี้ ถุงผ้านี้มีของขวัญจาก ย่านเอ้อ และตัวข้า จากนี้ไปโปรดอย่าไปตั้งแผงลอยของท่าน ถ้าเป็นไปได้ท่านสามารถเก็บกล่องเก็บของ ย่านเอ้อและข้าไว้ได้รึไม่? ข้าจะออกไปตอนนี้เเล้ว  ป้าลู่โปรดดูแลตัวเองด้วย "

หลังจากเสร็จสิ้นสิ่งที่เขาพูดมา โม่บ่อกี้ ไม่ได้อยู่อีกต่อไป มันหันหลังกลับและออกไปอย่างรวดเร็ว ป้าลู่ ไม่ได้ช่วยเหลือ ย่านเอ้อ และเขาในเป็นพิเศษใด ๆ แต่ทำให้พวกเขาได้มีที่อยู่และให้พวกเขามีข้าวกินในบางมื้อ เเม้ว่าข้าวจะเหนียวนิดหน่อยเเต่นั่นหมายถึงโลก ของโม่หวู่จิ้และย่านเอ้อและพวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมาก

เหรียญทองร้อยเหรียญจะเพียงพอสำหรับครอบครัวปกติที่จะได้รับจากเขา   เเต่เขาก็กลัวว่าจะทำให้นางมากเกินไปจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจเอาได้

เมื่อ โม่บ่อกี้ หายไปจากสายตาของป้าลู่จำได้ว่านางกำลังถือถุงผ้าเล็ก ๆ ไว้ในมือเธอเปิดกระเป๋าและแวววาวและประกายของทองเกือบทำให้นางกรี๊ดออกด้วยความตกใจนางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทันที: ย่านเอ้อ และ นายน้อยโม่ได้พบกับผู้มีพระคุณอย่างใจกว้างนางรีบวิ่งกลับไม่สามารถควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจได้
...
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมา โม่หวู่จิ้ ยืนอยู่หน้าตำหนักใหญ่

"ตำหนักตะกูลฮั่น" คำพูดเก่าแก่สองคำบอกกับ โม่บ่อกี้ว่านี่เป็นสถานที่ที่เขาจะอาศัยอยู่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

จากการประมาณการคร่าวๆ บริเวรตำหนักตะกูลฮั่นมีพื้นที่ใช้สอยอย่างน้อยกว่าหมื่นตารางเมตร
ในย่านวังโจวที่วุ่นวายนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่เท่าไหร่กันนะ? ใครจะรู้ว่าค่าใช้จ่ายนี้เมื่อเทียบกับที่พักของ ราชวงค์โม่ที่เป็นกษัตริย์ ใน รัฐฉินตอนเหนือบ้าง? แต่น่าเสียดายที่ โม่บ่อกี้ ไม่ได้มีความคิดที่คลุมเครืออะไรใน รัฐฉินตอนเหนือ

"เฮ้เด็กน้อยเจ้ากำลังพยายามจะทำอะไรอยู่ข้างหน้าที่อยู่ของท่านเจ้าเมือง ?ไปให้พ้น! "ยามที่อยู่ด้านหน้าของตำหนักเจ้าเมือง ตะโกนใส่ โม่บ่อกี้ ขณะที่เขากำลังถอนหายใจ
โม่ บ่อกี้กระโดดขึ้นไปทักทายพวกเขา

"พี่ชายทั้งสอง  ข้าคือ โม่ บ่อกี้ ... "

"เจ้า คือ โม่ บ่อกี้? คนที่ท่านเจ้าเมืองเองได้รับเชิญ มาที่ตำหนักเมื่อวานนี้หรือ? "ผยามเฝ้าประตูคนหนึ่งกำลังตะโกนใส่ โม่ บ่อกี้ ที่เข้ามาขัดขวางโม่บ่อกี้ โดยตรง หลังจากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเองว่า
"เขาไม่ได้ตอนรับข้าอย่างดีเลย"โม่บ่อกี้ หัวเราะ "ใช่ คือข้าเอง"

ความชอบการนินทาของยามคนนี้ได้รับการจุดประกายทันทีและเขาก็ดึงโม่บ่อกี้ไป อีกเเละถามว่า " ข้าเคยได้ยินมาว่า เจ้าเป็นนักกลั่น ยา  อ่า...ใช่แล้วทำไม เจ้าถึงไม่รับตำเเหน่งอ๋องเหนือของเจ้าเเละมาที่เเห่งนี้ที่ตำหนักตะกูลฮั่เพื่อเป็นคนงานทำไมรึ?

โม่บ่อกี้  จึงทักทาย ยามตะกูลฮั่นด้วยคำทักทายที่เหนือจินตนาการและพูดว่า " อ่า..พี่ชายมันจะไม่ดีนัก ที่พวกเจ้าจะถามคำถามนี้ ความชื่นชมของข้าที่อาวุโสเจ้าเมืองนั้นคือไม่มีที่สิ้นสุดต่ำแหน่งของข้ารึ อาจเทียบเคียงกับการเป็นคนงานที่นี้ ตำหนักตะกูลฮั่นได้อย่างไร?
 กล่าวอีกนัยหนึ่งถ้าข้ายอมให้เจ้าเลือกระหว่างการเป็น ยามที่ ตำหนักตะกูลฮั่น และเป็น อ๋องเหนือ จะเลือกใคร? "

"อา ... " ยามนี้ไม่สามารถตอบได้ในขณะนั้นไม่ได้เห็นได้ชัดว่าเลือกที่จะเป็นอ๋องแต่ไม่ว่าเขาจะเก็บคำพูดเหล่านี้ไว้เมื่อใดก็ตามที่ข่าวลือเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดจะเป็นการบอกคนอื่นว่าเขาไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์กับตำหนักตะกูลฮั่น ?

"เฮ้  ข้าไม่ได้เป็นศัตรูกับ อาวุโสเจ้าเมืองสักหน่อย ข้าย่อมเลือกที่จะเป็นยามตำหนักตะกูลฮั่น สิ " ยาม ถูมือและหัวเราะขึ้น

โม่บ่อกี้ จับไหล่ของยาม เเละกล่าวว่า"ตอนนี้ปัญหาของท่านยังมีอีกรึไม่? สำหรับคำถามง่ายๆที่เจ้ามีคำตอบ  เจ้ายังกล้าที่จะถามคำถามเหล่านี้อีกครั้งเจ้าจงใจ อยากโดนลงโทษงั้นรึ "

"ไม่, ไม่" ยามกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว

 ฮ่า ฮ่าๆ โม่ บ่อกี้ หัวเราะ ขึ้น  "ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น ข้ายังคงต้องพึ่งพาพวกเจ้าเพื่อนำข้า เข้าไป "

หน้าอกของยามเฝ้าประตู พองโตขึ้น " ไม่เลว ไม่เลว ", " น้องชายโม่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเองในวันข้างหน้าเราอาจได้เป็นสหายกัน  ข้า ติงบู่เอ้อโปรดมากับข้า." 

จากนั้น ติงบู่เอ้อ นั้นเข้าเเค่โบกมือและทักทาย ยามคนอื่น ๆ เพื่อที่จะนำ โม่บ่อกี้ มารายงานตัว ถึงแม้ว่า โม่บ่กี้ ไม่รู้จักศิลปะการต่อสู้ใด ๆ ก็ตาม แต่เขาก็ได้รับมอบหมายให้อยู่ในแผนกป้องกัน ตำหนักตะกูลฮั่นและกลายเป็นยามเฝ้าตำหนักนั้นเอง

ติงบู่เอ้อ(เอ้อที่เเปลว่าสอง),ติงบู่ซาน(สาม ),ติงบู่ซื่อ(สี่)  โม่บ่อกี้ไม่รู้ว่าชื่อนี้คิดได้อย่างไร เเต่หลังจากได้ฟัง ผู้ชายคนนี้ดูท่าทางประหลาดไม่น้อย  แต่เขาดูดีมีความชอบธรรมและพูดด้วยความจริงใจซึ่งทำให้ โม่บ่อกี้ประทับใจในตัวเขาไม่น้อย

ติงบู่เอ้อ นั้นทำเหมือนว่าเขาพยายามบอกทุกคนว่า โม่บ่อกี้อยู่ภายใต้การคุ้มครองของมัน   มันพาโม่บ่อกี้ ไปรอบ ๆส่วนต่างๆของ ตำหนัก  เเละแนะนำให้ทุกคนรู้จัก

เเต่อย่างไรก็ตาม โม่บ่อกี้  สามารถมองเห็นได้ชัดว่าตำแหน่งของติงบู่เอ้อ ที่ไม่ได้สูงมากนัก  เเต่ก็มีคนงานและยามที่ใส่ใจในสิ่งที่ ติงบู่เอ้อ กำลังทำอยู่นั่นเป็นเพราะไม่มีใครอยากจะทำให้เขาลำบาก แม้ที่ลานเขากำลังเฝ้า แต่คนอื่นก็ทักทายเขาบ้าง  

ไม่ว่าอะไรก็ตามการ ป้องกันตำหนักตะกูลฮั่น ของโม่หวู่จิ้ ยังคงเป็นที่ยอมรับ แม้แต่คนใหม่เช่น โม่หวู่จิ้ เขาก็มีห้องเป็นของตัวเอง

"บู่เอ้อ อาวุโสฮั่นกล่าวว่ามีการจัดงาน ประตูเเห่งความอัมตะ ในอีกสามเดือนแล้วสมาชิกของ ตะกูลฮั่น จะต้องเข้าร่วมหรือไม่?" หลังจากไปที่พักอาศัยโม่บ่อกี้ ยังไม่เห็นคนนั้นใครที่จะพาเขาไปที่ประตูอัมตะ ของจักรวรรดิการประชุมทำให้เขาค่อนข้างใจร้อน

เขาไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อเป็นคนงาน แต่ต้องยืมอำนาจของ ตะกูลฮั่น เพื่อไปยังเมืองหลวง อาณาจักร ชิงฮั่น ที่สำคัญที่สุดในการเข้าร่วมงานประชุม ประตูเเห่งความอมตะ และมันเป็นโอกาสเดียวที่จะได้ออกจาก ราวโจว

                       Immortal  จอมราชันย์อัมตะ

                  ผู้แต่ง: Goose Five  ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน


ตอนนี้ปรับแก้ เรื่องเนื้อหาที่ยาวให้เเล้วนะครับ เนื่องจาก เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ

ฝากคอมเมนให้กำลังใจ ด้วยครับ จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่
https://www.facebook.com/groups/1941675866154289/




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น