วันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 25: ถูกบังคับให้เข้าป่าหมอกสายฟ้า


บทที่ 25: ถูกบังคับให้เข้าป่าหมอกสายฟ้า
โม่บ่อกี้  ขมวดคิ้วว่า "เจ้าทำไมถึงต้องห้ามเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า? เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ รึ?"

ข้าได้ยินมาว่ามีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากบางตัวอยู่ลึกเข้าไปในป่าหมอกสายฟ้า
 สัตว์อสูรพวกมันเปรียบได้กับเครื่องจักรสังหารของ รัฐเฉิงตูเเห่งทหารองครักษ์ผู้หนึ่ง เคยเข้าไปในส่วนลึกของป่าหมอกสายฟ้าและเขาเเทบจะเอาชีวิตไม่รอดในนั้น     เเม้เเต่ คุณหนูน้อยของเราก็เคยบอกเราว่า มีเรื่องราวของเจ้าชายที่ 11, ซือถู ยู่ เข้าไปในป่าและไม่ได้กลับออกมาอีก "

ในเวลาเดียว ติงบู่เอ้อ ลดเสียงต่ำลงกล่าวว่า " เจ้าชาย ยู่ เป็นอัจฉริยะของ รัฐเฉิงตู หลังจากที่เขาหายตัวไปในป่าหมอกสายฟ้า ท่านอ๋องได้รับสั่งทหารองครักษ์ออกไปค้นหาเขา   เเต่ในที่สุดทหารองครักษ์ก็หนีออกจากป่าเเละได้รับบาดเจ็บสาหัสและเขาไม่สามารถช่วยเจ้าชาย ยู่ ได้ "

โม่บ่อกี้ หันมาท่าทางเงียบๆ ป่าหมอกสายฟ้าเป็นสิ่งที่อันตรายแม้กระทั่งสำหรับคนที่เข็งแกร่งดังเช่นทหารองครักษ์ยังบาดเจ็บสาหัส อย่าเอ่ยถึงเขาเพียงเเค่ ฮู่ เฟย ที่เป็นเพียงชาวบ้านสามัญชนธรรมดายังไม่สามารถชนะได้เลย ถ้าเขาเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า เขาอาจจะไม่ได้ออกมาพร้อมกับกระดูกของเขา

เมื่อเห็น โม่บ่กี้ หันมาเงียบๆ ติงบู่เอ้อ กล่าวต่อว่า "นอกเหนือจากสัตว์อสูรที่ชั่วร้ายแล้ว  ยังมีมีทะเลสาบฟ้าผ่า มากมายใน ป่าหมอกสายฟ้า ภายในทะเลสาบเหล่านี้นับเป็นหมื่นๆเส้นสายฟ้าหากเจ้าเข้าไปติดในทะเลสาบฟ้าผ่า เจ้าจะตายทันที. "
เมื่อเสร็จสิ้นคำพูด บู่เอ้อ ตบที่ไหล่ของ โม่บ่อกี้ ลงไปเบาและกล่าวว่า "ในเช้าวันพรุ่งนี้เราจะไปถึงชานเมืองของป่าหมอกสายฟ้า"
...
ไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นเพราะโม่บ่อกี้เองหรือทุกคนทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่มีประโยชน์ เพราะเขาไม่ได้รับหน้าที่ใด ๆ ตลอดทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อท้องฟ้ามืดสลัว โม่บ่อกี้ได้รับการปลุกให้ตื่นจาก ติงบู่เอ้อ เขารีบลุกขึ้นและเดินทางต่อ

ติงบู่เอ้อ พวกเขามาถึงเขตป่า หมอกสายฟ้า ในตอนบ่ายจริงๆ แม้ว่าไม่มีใครบอกเขาก็ตาม โม่บ่อกี้ ก็คาดเดาได้ว่าพวกเขามาถึง ป่าหมอกสายฟ้า แล้ว

แม้ว่าป่าจะปกคลุมด้วยหมอก แต่ โม่บ่อกี้  ยังคงมองเห็นฟ้าผ่าเป็นครั้งคราว เขายังได้ยินเสียงคำรามที่ไม่รู้จักซึ่งทำให้เกิดความกลัว

ทุกคนชุมนุมกันในพื้นที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ต่ำ ท่ามกลางพุ่มไม้บางเส้นทางเดินเท้าอาจเห็นได้ บางครั้งงูพิษและหนูตัวใหญ่อาจจะวิ่งข้ามพุ่มไม้บ้าง

"หัวหน้ายาม เผิง หาคนมาดูแลม้าและให้มันจัดการที่ดินตรงนี้เพื่อสร้างที่พัก ซะ ส่วนที่เหลือตามข้าไป หาหญ้าอัคคีสองใบ " ฮั่นหนิงสั่ง เผิง เมาฮัว

หลังจากได้ยินคำพูดของฮั่นหนิง, เผิงเมาฮัว ถามด้วยความตกใจ "อั๊ยหยา คุณหนูน้อย, หญ้าอัคคีสองใบเป็นพืชจิตวิญญาณ  

ฮันหนิงค่อยๆตอบว่า " ถ้าไม่ใช่เพราะพืชจิตวิญญาณ ข้าจำเป็นต้องมาที่ ป่าหมอกสายฟ้า รึ "

"แต่ ... แต่ ... " เผิง เมาฮัว กล่าวอย่างลังเล เขตชานป่าหมอกสายฟ้า มีพืชจิตวิญญาณเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่มันก็นานมาแล้ว เพื่อหาพืชจิตวิญญาณที่บริเวณรอบนอกของป่าหมอกสายฟ้ามันเป็นเรื่องยากมากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร

คุณหนูน้อย ต้องมีการให้พวกมันเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า พวกมันก็ต้องการที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหนู เพื่อ ที่จะเพิ่มโอกาสเพื่อเข้าร่วมใน งามชุมนุมประตูอมตะ แต่ถ้ามันต้องแลกด้วยกับการเข้า ป่าหมอกสายฟ้าพวกมันจะไม่สนใจโอกาสนั้นเลย

"เจ้าคิดว่าอย่างไร?" ฮันหนิงกล่าว

เผิงเมาฮัว หายใจเข้าลึกเต็มปอดและกล่าวด้วยความนับถือว่า "แม้แต่ ทหารองค์รักษ์ ยังแทบไม่รอดหลังจากเข้าไป ในป่าหมอกสายฟ้า ถ้าเราไป ......คงจะ… "

การแสดงออกของความกังวลเป็นที่เห็นได้ชัด

ฮั่นหนิง ยิ้มและกล่าว "หัวหน้ายามเผิง เจ้าคิดมากเกินไป ข้าจะกล้าเข้าไปในส่วนลึกของป่าหมอกสายฟ้าได้รึ  ส่วนใหญ่เราจะเข้าไปในป่าลึกเพียง 10 เมตรถ้าหากเรายังไม่สามารถหาหญ้าอัคคีได้ ข้าจะยอมแพ้ออกมา  "

การได้ยินคำพูดของฮันหนิง  เผิงเมาฮัว ถอนหายใจเบาๆ ถูกต้อง นางจะไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ถ้าเป็นเพียง 10 เมตรก็ไม่น่ามีปัญหาใด ๆ

การคิดถึงเรื่องนี้ เผิงเมาฮัว กล่าวกับยามที่ค่อนข้างอายุน้อย ๆ " ไช่จือ เจ้า จะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลม้าในเวลาเดียวกันให้ล้างพื้นที่นี้"

เห็นว่า เผิงเมาฮัว ไม่มีการคัดค้าน ฮั่นหนิง ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ "ส่วนที่เหลือ พวกเจ้าตามข้ามา!!"
เผิงเมาฮัว นำ โม่บ่อกี้ ไปข้างหน้าเพื่อเปิดเส้นทาง ฮันหนิงกับแม่บ้านส่วนใหญ่ของนางเสี่ยวหลง  เดินตามหลังอย่างใกล้ชิด
อีกสองชั่วโมงต่อมา โม่บ่อกี้ พบฟุ่มไม่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางที่เดินทางก่อนหน้านี้ได้ อย่างไรก็ตามยังมีหญ้าเตี้ยๆอยู่บ้าง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทาง

"คุณหนูน้อย ในอีกไม่กี่ ก้าวเท้า เราจะเข้าสู่ ป่าหมอกสายฟ้าแล้ว นะ " เผิงเมาฮัว กล่าวอย่างหงุดหงิดๆ
ฮันหนิง ไอเบาๆ "ท้องฟ้ามืดลงแล้วเราจะไม่เข้าไปในวันนี้  แต่เราจะหาอีกเพียงไม่กี่ก้าวเท้านี้ ทุกคนรอบๆโปรดทราบแม้ว่าหญ้าอัคคีสองใบจะหายากมาก  แต่หญ้านี้จะดีที่สุดหากหาในตอนเย็นเพราะในเวลานี้เจ้าสามารถเห็นแสงสีแดงของหญ้า ได้ง่าย "

"ใช่" เผิงเมาฮัวตอบ

 โม่บ่อกี้ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ที่เห็นได้ชัดของเผิงเมาฮัว
โม่บ่อกี้นั้น คุ้นเคยกับหญ้าอัคคีสองใบนี้ดี เพราะตอนที่เขาอยู่ในโรงกลั่นยาด่านฮั่น เขาเห็นมันอยู่ในหนังสือ ซึ่งมันจะมีใบสองใบที่งอกขึ้นจากรากและระหว่างสองใบนี้เป็นแกนหญ้าสั้น ๆ แกนหญ้ามีสีแดงเล็กน้อยและมีรูปร่างเหมือนเปลวไฟ

"  อ๊ากกกกก!. " เสียงที่ดังด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจากความเงียบทำให้ เผิงเมาฮัวและคนอื่นๆแตกตื่น

" ฉางฮวงไค (เปลี่ยนจาก ฉางซ่งไคตอนที่24), เกิดสิ่งใดขึ้นรึ?" เผิงเมาฮัว กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
"ข้า ถูกงูพิษทะลายใจ.กัด!!!... " เฉงฮวงไคพูดออกมาแบบตะกุกตะกักอย่างเห็นได้ชัดในความเจ็บปวดฮันหนิงดึงยาออกมา

ฮั่นหนิงหยิบ ยาแก้พิษออกมาและมอบให้ ฉางฮวงไค "จงรีบกลืนสิ่งนี้หลังจากที่งูพิษทะลายใจกัดเจ้า พิษจะเจาะลึกถึงหัวใจเจ้าถ้าเจ้ามิกินยาแก้พิษนี้เจ้าจะตาย"

"ขอบคุณ ... " ฉางฮวงไค กล่าวเพียงคำเดียวก่อนที่ โม่บ่อกี้ จะได้ยินเสียง ติงบู่เอ้อ ตะโกนว่า  " มันยังมาอีก  มากมาย ... "

"ช่า .ซ่า.. " เสียงหญ้าสั่นไหว   มัน ไม่ใช่แค่ ติงบู๋เอ้อ เท่านั้น ทุกคนสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน

งูพิษทะลายใจมากกว่า 100  ตัวเลื่อยมาจากทางด้านหลัง ฉางฮวงไค ในระยะไกลมีเสียงมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีงูพิษทะลายใจที่อยู่ด้านหลังกว่า 100ตัว

"ทุกคนวิ่งหนีไป ... " ฮันหนิงคว้าสาวใช้ของนาง และถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ทุกคนก็รีบวิ่งหนีทันที ตามธรรมชาติของโม่บ่อกี้ ก็ไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งหนีออกไปเช่นกัน
ด้านหลัง โม่บ่อกี้สามารถมองเห็น ฉางฮวงไค ที่ถูกล้อมรอบด้วยงูพิษทะลายใจ มากกว่าสิบตัว แน่นอนว่าเขาไม่สามารถช่วยได้แน่นอน

โม่บ่อกี้ รู้สึกกระวนกระวายศีรษะและวิ่งเร็วขึ้น ในเวลาเดียวกันเขาหยิบมีดออก งูชนิดนี้น่ากลัวเกินไป ถ้าถูกล้อมรอบก็จะจบเหมือน ฉางฮวงไค

หลังจากวิ่งไป 10 เมตร โม่บ่อกี้ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ถ้าเขายังคงวิ่งไปข้างหน้าเขาจะเข้าป่าไปในป่าหมอกสายฟ้า เขามองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าคนที่เหลือกำลังวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน ในขณะนี้เขาเห็นเส้นสีดำบินด้วยความเร็ว
โม่ย่อกี้ เอามีดของเขาแทงไปที่เส้นสีดำ โดยไม่ได้คิดอะไร
กลิ่นของเลือดเกือบทำให้เขาอยากอาเจียน โม่บ่อกี้ รู้ทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น งูพิษทะลายใจสามารถบินได้!

โม่บ่อกี้ ได้ยินเสียงที่ของงูอยู่ข้างหลังเขาเต็มไปหมด  ในตอนที่เขาอยู่ในช่วงความตายก้าวเข้าหาใกล้ๆเยี่ยงนี้  เขาไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับ ป่าหมอกสายฟ้าอีกต่อไป โม่บ่อกี้ รีบวิ่งด้วยแรงทั้งหมดทีมีเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า โดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย

Immortal  จอมราชันย์อัมตะ

                  ผู้แต่ง: Goose Five  ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน


ตอนนี้ปรับแก้ เรื่องเนื้อหาที่ยาวให้เเล้วนะครับ เนื่องจาก เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ
 ปล.ตอนนี้ เรื่องตำเเหน่งขุนนาง ทั้งเก้า ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ จึงอาจต้อมีการเปลี่ยนแปลง
     ในตอนนี้กำหนดให้ ฮั่นเฉิง เป็นเจ้าเมืองไปก่อน หากได้ความใช้เจนจะเปลี่ยนให้ ต่อไปครับ
     ปล.ชื่ิอ พระเอก เปลี่ยนจาก โม่หวู่จิ้ เป็นโม่บ่อกี้ ครับ (ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา)


ฝากคอมเมนให้กำลังใจ ด้วยครับ จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่  







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น