บทที่ 25:
ถูกบังคับให้เข้าป่าหมอกสายฟ้า
โม่บ่อกี้
ขมวดคิ้วว่า "เจ้าทำไมถึงต้องห้ามเข้าไปใน
ป่าหมอกสายฟ้า? เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ รึ?"
ข้าได้ยินมาว่ามีสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมากบางตัวอยู่ลึกเข้าไปในป่าหมอกสายฟ้า
สัตว์อสูรพวกมันเปรียบได้กับเครื่องจักรสังหารของ
รัฐเฉิงตูเเห่งทหารองครักษ์ผู้หนึ่ง
เคยเข้าไปในส่วนลึกของป่าหมอกสายฟ้าและเขาเเทบจะเอาชีวิตไม่รอดในนั้น
เเม้เเต่ คุณหนูน้อยของเราก็เคยบอกเราว่า
มีเรื่องราวของเจ้าชายที่ 11, ซือถู ยู่
เข้าไปในป่าและไม่ได้กลับออกมาอีก "
ในเวลาเดียว ติงบู่เอ้อ ลดเสียงต่ำลงกล่าวว่า
" เจ้าชาย ยู่ เป็นอัจฉริยะของ รัฐเฉิงตู
หลังจากที่เขาหายตัวไปในป่าหมอกสายฟ้า ท่านอ๋องได้รับสั่งทหารองครักษ์ออกไปค้นหาเขา เเต่ในที่สุดทหารองครักษ์ก็หนีออกจากป่าเเละได้รับบาดเจ็บสาหัสและเขาไม่สามารถช่วยเจ้าชาย
ยู่ ได้ "
โม่บ่อกี้ หันมาท่าทางเงียบๆ
ป่าหมอกสายฟ้าเป็นสิ่งที่อันตรายแม้กระทั่งสำหรับคนที่เข็งแกร่งดังเช่นทหารองครักษ์ยังบาดเจ็บสาหัส
อย่าเอ่ยถึงเขาเพียงเเค่ ฮู่ เฟย ที่เป็นเพียงชาวบ้านสามัญชนธรรมดายังไม่สามารถชนะได้เลย
ถ้าเขาเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า เขาอาจจะไม่ได้ออกมาพร้อมกับกระดูกของเขา
เมื่อเห็น โม่บ่กี้ หันมาเงียบๆ ติงบู่เอ้อ กล่าวต่อว่า
"นอกเหนือจากสัตว์อสูรที่ชั่วร้ายแล้ว ยังมีมีทะเลสาบฟ้าผ่า มากมายใน ป่าหมอกสายฟ้า ภายในทะเลสาบเหล่านี้นับเป็นหมื่นๆเส้นสายฟ้าหากเจ้าเข้าไปติดในทะเลสาบฟ้าผ่า
เจ้าจะตายทันที. "
เมื่อเสร็จสิ้นคำพูด บู่เอ้อ ตบที่ไหล่ของ โม่บ่อกี้ ลงไปเบาและกล่าวว่า
"ในเช้าวันพรุ่งนี้เราจะไปถึงชานเมืองของป่าหมอกสายฟ้า"
...
ไม่มีใครรู้ได้ว่าเป็นเพราะโม่บ่อกี้เองหรือทุกคนทำให้เขารู้สึกว่าเขาไม่มีประโยชน์
เพราะเขาไม่ได้รับหน้าที่ใด ๆ ตลอดทั้งคืน
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อท้องฟ้ามืดสลัว โม่บ่อกี้ได้รับการปลุกให้ตื่นจาก
ติงบู่เอ้อ เขารีบลุกขึ้นและเดินทางต่อ
ติงบู่เอ้อ พวกเขามาถึงเขตป่า หมอกสายฟ้า ในตอนบ่ายจริงๆ
แม้ว่าไม่มีใครบอกเขาก็ตาม โม่บ่อกี้ ก็คาดเดาได้ว่าพวกเขามาถึง ป่าหมอกสายฟ้า แล้ว
แม้ว่าป่าจะปกคลุมด้วยหมอก แต่ โม่บ่อกี้ ยังคงมองเห็นฟ้าผ่าเป็นครั้งคราว
เขายังได้ยินเสียงคำรามที่ไม่รู้จักซึ่งทำให้เกิดความกลัว
ทุกคนชุมนุมกันในพื้นที่เต็มไปด้วยพุ่มไม้ต่ำ
ท่ามกลางพุ่มไม้บางเส้นทางเดินเท้าอาจเห็นได้ บางครั้งงูพิษและหนูตัวใหญ่อาจจะวิ่งข้ามพุ่มไม้บ้าง
"หัวหน้ายาม เผิง หาคนมาดูแลม้าและให้มันจัดการที่ดินตรงนี้เพื่อสร้างที่พัก
ซะ ส่วนที่เหลือตามข้าไป หาหญ้าอัคคีสองใบ " ฮั่นหนิงสั่ง
เผิง เมาฮัว
หลังจากได้ยินคำพูดของฮั่นหนิง,
เผิงเมาฮัว ถามด้วยความตกใจ "อั๊ยหยา คุณหนูน้อย,
หญ้าอัคคีสองใบเป็นพืชจิตวิญญาณ “
ฮันหนิงค่อยๆตอบว่า
" ถ้าไม่ใช่เพราะพืชจิตวิญญาณ ข้าจำเป็นต้องมาที่ ป่าหมอกสายฟ้า
รึ "
"แต่ ... แต่ ... " เผิง เมาฮัว กล่าวอย่างลังเล เขตชานป่าหมอกสายฟ้า มีพืชจิตวิญญาณเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น
แต่มันก็นานมาแล้ว เพื่อหาพืชจิตวิญญาณที่บริเวณรอบนอกของป่าหมอกสายฟ้ามันเป็นเรื่องยากมากราวกับงมเข็มในมหาสมุทร
คุณหนูน้อย ต้องมีการให้พวกมันเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า พวกมันก็ต้องการที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของคุณหนู
เพื่อ ที่จะเพิ่มโอกาสเพื่อเข้าร่วมใน งามชุมนุมประตูอมตะ แต่ถ้ามันต้องแลกด้วยกับการเข้า
ป่าหมอกสายฟ้าพวกมันจะไม่สนใจโอกาสนั้นเลย
"เจ้าคิดว่าอย่างไร?" ฮันหนิงกล่าว
เผิงเมาฮัว หายใจเข้าลึกเต็มปอดและกล่าวด้วยความนับถือว่า
"แม้แต่ ทหารองค์รักษ์ ยังแทบไม่รอดหลังจากเข้าไป ในป่าหมอกสายฟ้า
ถ้าเราไป ......คงจะ… "
การแสดงออกของความกังวลเป็นที่เห็นได้ชัด
ฮั่นหนิง ยิ้มและกล่าว
"หัวหน้ายามเผิง เจ้าคิดมากเกินไป ข้าจะกล้าเข้าไปในส่วนลึกของป่าหมอกสายฟ้าได้รึ ส่วนใหญ่เราจะเข้าไปในป่าลึกเพียง 10 เมตรถ้าหากเรายังไม่สามารถหาหญ้าอัคคีได้ ข้าจะยอมแพ้ออกมา "
การได้ยินคำพูดของฮันหนิง เผิงเมาฮัว ถอนหายใจเบาๆ ถูกต้อง นางจะไม่ทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย
ถ้าเป็นเพียง 10 เมตรก็ไม่น่ามีปัญหาใด ๆ
การคิดถึงเรื่องนี้ เผิงเมาฮัว กล่าวกับยามที่ค่อนข้างอายุน้อย
ๆ " ไช่จือ เจ้า จะอยู่ที่นี่เพื่อดูแลม้าในเวลาเดียวกันให้ล้างพื้นที่นี้"
เห็นว่า เผิงเมาฮัว ไม่มีการคัดค้าน ฮั่นหนิง ก็พยักหน้าด้วยความพอใจ
"ส่วนที่เหลือ พวกเจ้าตามข้ามา!!"
เผิงเมาฮัว นำ โม่บ่อกี้ ไปข้างหน้าเพื่อเปิดเส้นทาง
ฮันหนิงกับแม่บ้านส่วนใหญ่ของนางเสี่ยวหลง
เดินตามหลังอย่างใกล้ชิด
อีกสองชั่วโมงต่อมา โม่บ่อกี้ พบฟุ่มไม่ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
จนไม่สามารถมองเห็นเส้นทางที่เดินทางก่อนหน้านี้ได้ อย่างไรก็ตามยังมีหญ้าเตี้ยๆอยู่บ้าง
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทาง
"คุณหนูน้อย ในอีกไม่กี่ ก้าวเท้า เราจะเข้าสู่
ป่าหมอกสายฟ้าแล้ว นะ " เผิงเมาฮัว กล่าวอย่างหงุดหงิดๆ
ฮันหนิง ไอเบาๆ "ท้องฟ้ามืดลงแล้วเราจะไม่เข้าไปในวันนี้ แต่เราจะหาอีกเพียงไม่กี่ก้าวเท้านี้ ทุกคนรอบๆโปรดทราบแม้ว่าหญ้าอัคคีสองใบจะหายากมาก แต่หญ้านี้จะดีที่สุดหากหาในตอนเย็นเพราะในเวลานี้เจ้าสามารถเห็นแสงสีแดงของหญ้า
ได้ง่าย "
"ใช่" เผิงเมาฮัวตอบ
โม่บ่อกี้ รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในอารมณ์ที่เห็นได้ชัดของเผิงเมาฮัว
โม่บ่อกี้นั้น คุ้นเคยกับหญ้าอัคคีสองใบนี้ดี เพราะตอนที่เขาอยู่ในโรงกลั่นยาด่านฮั่น
เขาเห็นมันอยู่ในหนังสือ ซึ่งมันจะมีใบสองใบที่งอกขึ้นจากรากและระหว่างสองใบนี้เป็นแกนหญ้าสั้น
ๆ แกนหญ้ามีสีแดงเล็กน้อยและมีรูปร่างเหมือนเปลวไฟ
"
อ๊ากกกกก!. " เสียงที่ดังด้วยความเจ็บปวดดังขึ้นจากความเงียบทำให้
เผิงเมาฮัวและคนอื่นๆแตกตื่น
" ฉางฮวงไค (เปลี่ยนจาก
ฉางซ่งไคตอนที่24), เกิดสิ่งใดขึ้นรึ?"
เผิงเมาฮัว กล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
"ข้า ถูกงูพิษทะลายใจ.กัด!!!... " เฉงฮวงไคพูดออกมาแบบตะกุกตะกักอย่างเห็นได้ชัดในความเจ็บปวดฮันหนิงดึงยาออกมา
ฮั่นหนิงหยิบ ยาแก้พิษออกมาและมอบให้ ฉางฮวงไค
"จงรีบกลืนสิ่งนี้หลังจากที่งูพิษทะลายใจกัดเจ้า พิษจะเจาะลึกถึงหัวใจเจ้าถ้าเจ้ามิกินยาแก้พิษนี้เจ้าจะตาย"
"ขอบคุณ ... " ฉางฮวงไค กล่าวเพียงคำเดียวก่อนที่ โม่บ่อกี้ จะได้ยินเสียง ติงบู่เอ้อ ตะโกนว่า
"
มันยังมาอีก มากมาย ... "
"ช่า .ซ่า.. " เสียงหญ้าสั่นไหว มัน ไม่ใช่แค่ ติงบู๋เอ้อ
เท่านั้น ทุกคนสามารถเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
งูพิษทะลายใจมากกว่า 100
ตัวเลื่อยมาจากทางด้านหลัง ฉางฮวงไค
ในระยะไกลมีเสียงมากยิ่งขึ้น เห็นได้ชัดว่ามีงูพิษทะลายใจที่อยู่ด้านหลังกว่า 100ตัว
"ทุกคนวิ่งหนีไป ... " ฮันหนิงคว้าสาวใช้ของนาง และถอยกลับอย่างรวดเร็ว
ทุกคนก็รีบวิ่งหนีทันที ตามธรรมชาติของโม่บ่อกี้ ก็ไม่ลังเลเลยที่จะวิ่งหนีออกไปเช่นกัน
ด้านหลัง โม่บ่อกี้สามารถมองเห็น ฉางฮวงไค ที่ถูกล้อมรอบด้วยงูพิษทะลายใจ
มากกว่าสิบตัว แน่นอนว่าเขาไม่สามารถช่วยได้แน่นอน
โม่บ่อกี้ รู้สึกกระวนกระวายศีรษะและวิ่งเร็วขึ้น
ในเวลาเดียวกันเขาหยิบมีดออก งูชนิดนี้น่ากลัวเกินไป ถ้าถูกล้อมรอบก็จะจบเหมือน ฉางฮวงไค
หลังจากวิ่งไป 10
เมตร โม่บ่อกี้ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
ถ้าเขายังคงวิ่งไปข้างหน้าเขาจะเข้าป่าไปในป่าหมอกสายฟ้า เขามองไปรอบ ๆ เพื่อดูว่าคนที่เหลือกำลังวิ่งไปในทิศทางเดียวกัน
ในขณะนี้เขาเห็นเส้นสีดำบินด้วยความเร็ว
โม่ย่อกี้ เอามีดของเขาแทงไปที่เส้นสีดำ โดยไม่ได้คิดอะไร
กลิ่นของเลือดเกือบทำให้เขาอยากอาเจียน โม่บ่อกี้ รู้ทันทีว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
งูพิษทะลายใจสามารถบินได้!
โม่บ่อกี้ ได้ยินเสียงที่ของงูอยู่ข้างหลังเขาเต็มไปหมด ในตอนที่เขาอยู่ในช่วงความตายก้าวเข้าหาใกล้ๆเยี่ยงนี้
เขาไม่สนใจเรื่องเกี่ยวกับ
ป่าหมอกสายฟ้าอีกต่อไป โม่บ่อกี้ รีบวิ่งด้วยแรงทั้งหมดทีมีเข้าไปใน ป่าหมอกสายฟ้า
โดยไม่ลังเลใจแม้แต่น้อย
Immortal จอมราชันย์อัมตะ
ผู้แต่ง: Goose Five ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน
ตอนนี้ปรับแก้
เรื่องเนื้อหาที่ยาวให้เเล้วนะครับ เนื่องจาก เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ
ปล.ตอนนี้ เรื่องตำเเหน่งขุนนาง ทั้งเก้า ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ จึงอาจต้อมีการเปลี่ยนแปลง
ในตอนนี้กำหนดให้
ฮั่นเฉิง เป็นเจ้าเมืองไปก่อน หากได้ความใช้เจนจะเปลี่ยนให้ ต่อไปครับ
ปล.ชื่ิอ พระเอก เปลี่ยนจาก โม่หวู่จิ้ เป็นโม่บ่อกี้ ครับ
(ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านภาษา)
ฝากคอมเมนให้กำลังใจ ด้วยครับ
จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น