บทที่ 23:
เจ้าคงคือโม่ บ่อกี้?
ใบหน้าของ
ติงบู่เอ้อ เผยให้เห็นการแสดงออกของความเคารพออกมา "แน่นอนว่านั่นคือลูกสาวของเจ้าเมือง คุณหนูฮั่นหนิง นางนั้นสามารถถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะแม้กระทั่งในรัฐ เฉิงตู
ทั้งคุณภาพของรากฐานทางจิตวิญญาณของนางก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เมื่อสามปีที่ผ่านมา
อาวุโสเจ้าเมืองได้พานางไปที่ เฉิงลาว
ซึ่งเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์เพื่อเปิดจิตวิญญาณของนางและนางได้เปิดช่องทางวิญญาณเจ็ดช่อง
คุณหนูเปิดช่องจิตวิญญาณ ละดับ 5 ซึ่งมีวิญญาณมากกว่า 20
ช่อง
หากไม่ต้องรอ ประตูอมตะ
คุณหนูน้อยจักต้องได้เข้านิกาย ในสามปีที่ผ่านมา. "
โม่ บ่อกี้
เคยได้ยินเกี่ยวกับช่องวิญญาณมาก่อน
ช่องที่คุณเปิดระหว่างช่วงเปิดจิตมันจะยิ่งมีศักยภาพมากขึ้นเท่านั้น
รากฐานทางจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูงกว่าจะทำให้ช่องทางทางจิตวิญญาณเปิดกว้างมากขึ้นในระหว่างการเปิดจิตวิญญาณ
แต่ โม่บ่อกี้ มีรากฐานมนุษย์เท่านั้น เขาไม่ได้มีรากฐานทางจิตวิญญาณ ก่อนหน้านี้เมื่อเขาพยายามที่จะเปิดจิตวิญญาณของเขาเขาไม่สามารถเปิดช่องทางใด
ๆ วิญญาณใด ๆ ได้เลยแม้แต่น้อย
"ทำไมนางต้องรอ
ประตูอมตะ กันรึ มันจะไม่ดีกว่ารึ ถ้าหากพลาดนิดหน่อยเมื่อสามปีก่อน?"
โม บ่อกี้ ถามอย่างงง ๆ
จากมุมมองของเขามีความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างการเพาะปลูกในนิกายและการเพาะปลูกที่ที่อาศัยธรรมดา
ถ้าฮั่นหนิงเข้านิกายเมื่อสามปีก่อนระดับการเพาะปลูกของ นาง
อาจจะสูงกว่าช่องทางเปิดที่ 5
ติง บู่เอ้อ หัวเราะอย่างรื่นเริงและทำสีหน้าลึกลับ
พูดด้วยเสียงเหมือนไม่รุ้ไม่เห็นอะไร
และพูดว่า "นี่คือที่ที่เจ้าไม่เข้าใจจริงๆนิกายใหญ่ๆนั้นจะรับ
แต่ศิษย์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของ การชุมนุม ประตูแห่งความอมตะ เท่านั้น ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา
นางสามารถเข้าร่วมนิกายเล็ก ๆ ได้อย่างแน่นอน และบางคนคิดว่านิกายเล็ก ๆ
เหล่านี้สามารถแข่งขันกับทรัพยากรและเทคนิคของคนนิกายใหญ่ได้รึไม่ "
นั่นเป็นเหตุผลที่
โม่ บ่อกี้ เห็นด้วยกับคำตอบนี้
เมื่อเปรียบเทียบทรัพยากรของมหาวิทยาลัยปักกิ่งและโรงงานประกาศนียบัตรแล้วมหาวิทยาลัยปักกิ่งก็จะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน
"อาวุโสเจ้าเมือง
อนุญาตให้ข้า มาที่นี่เพื่อที่ข้าจะเป็นผู้ติดตามนางไปที่การชุมนุมประตู อมตะ
เพื่อที่ข้าจะสามารถช่วยเหลือนางได้เล็กน้อย?" โม่บ่อกี้ เริ่มที่จะถาม
ติงบู่เอ้อ ส่ายหัว
"น้องชายบ่อกี้ ท่านอาวุโส เจ้าเมืองนั้น เคยกล่าวไว้ว่า
จะให้สิทธิพิเศษคุณหนูน้อยที่มีโอกาสในการเข้าร่วมประตู อมตะ ซึ่งมิใช่พวกเรา"
"ทำไมรึ?"
โม่บ่อกี้ ตกใจมาก นั่นคือเหตุผลที่เขามา
ถ้าเขาไม่ได้เข้าร่วมการประชุมแล้วจะมีสิ่งใดอื่นที่มาที่นี่?
ติงบู่เอ้อ กระซิบกระซาบในหูของ
โม่ บ่อกี้ ว่า "คุณหนูน้อยนั้น
จะเลือกผู้ติดเตามของนางเองและนางไม่รู้จักเราเพราะฉะนั้นเราจะไม่ได้รับการคัดเลือกอย่างแน่นอนด้วยความตรงไปตรงมาทุกครั้งโอกาสที่จะได้รับของข้าจะยิ่งสูงกว่า
ของเจ้า เพราะว่าหลังจากทั้งหมดที่ข้าทำ ข้าดูแลสนามและข้ายังป้องกันประตู อย่างน้อย คุณหนูจะได้สังเกตเห็นข้า
มากกว่าเจ้า
หัวใจของ
โม่บ่อกี้ ทรุดลง ถ้านี่เป็นวิธีที่ฮันหนิงเลือกผู้ติดตาม
ของนางจริงๆเขาคงจะไม่ได้มีโอกาส
ติงบู่ เอ้อ ตบหน้าอกของ
โม่ บ่อกิ้เบาๆ และพาเขาไปที่ที่พักอาศัยส่วนตัวของเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจเล็กน้อย
"ไม่ ….ข้ามาที่นี่เพื่อไปยังเมืองหลวงถ้า ติงบู่เอ้อ กล่าวเป็นความจริง
ข้าต้องหาทางที่จะพบ ฮั่นหนิงให้ได้
ไม่มีเวลาแล้ว
มันเป็นเรื่องเร่งด่วนข้าจะเริ่มพรุ่งนี้ ก่อนอื่นข้าจะลอง สอบถามกับผู้คนใน ตำหนักแห่งนี้(ตำหนักตะกูลฮั่น)
"
หลังจากส่ง ติงบู่เอ้อ
ไปแล้ว โม่ บ่อกี้ ก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียงและหลับไป
นับตั้งแต่ที่เขาได้ดื่มน้ำยา เปิดช่องจิตวิญญาณ
ทำให้เขาไม่มีเวลาพักผ่อนที่เหมาะสม เขานอนไม่หลับเมื่อคืนนี้
มันน่าทึ่งมากที่ต้องอดทนจนบัดนี้
...
ท้องฟ้ามืดสลัว
ระฆังดังขึ้นที่ลาน ตำหนักตะกูลฮั่น ทุกคนตื่นขึ้นมาและลุกขึ้นเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่จะรีบวิ่งไปที่สนามฝึกศิลปะการต่อสู้
โม่ บ่อกี้ เหนื่อยล้าทั้งทางร่างกายและจิตใจ
แม้ว่าเขาจะได้ยินเสียงระฆังเขาก็ยังไม่ตื่นขึ้น
ในเวลาเพียงครึ่งธูป
มีผู้คุ้มกันมากกว่าหนึ่งร้อยคน รวมตัวกันอยู่ในเขตศิลปะการต่อสู้
" ฮี่
..ฮี่. " ได้ยินเสียงของม้าเดิน
หญิงสาวนางหนึ่งขี่ม้าสูงสีแดงตัวหนึ่งกำลังเดินเข้ามา
จากระยะไกลดูเหมือนลูกไฟแดงฉาน
และข้างหลังนางมีผู้หญิงชุดฟ้าคนหนึ่งขี่ม้าสีเหลือง
"ทำความเคารพ
คุณหนูหนิง" ยามที่เรียกออกมา
ทุกคนยอมรับว่าคนนี้เป็นที่พักพิงของ ตำหนักฮั่น ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของฮั่นหนิง
ดวงตาของฮั่นหนิงกวาดข้ามร้อยคนขณะที่นางค่อยๆพูดว่า
"วันนี้ข้าจะไปที่ป่า หมอกสายฟ้า และข้าต้องการพวกเจ้าสิบคนทำหน้าที่
คุ้มกัน ข้าในหมู่พวกเจ้า 10 คนที่ทำดีที่สุด
จะได้ติดตามข้าไปที่ งานชุมนุม ประตูอมตะ"
เมื่อพวกเขาได้ยินคำพูดของฮั่นหนิง
ยามทั้งหมดอยู่ในความตื่นเต้น พวกเขาทั้งหมดต้องการที่จะเข้าสู่สายตา
คุณหนูน้อยของพวกเขา และจะได้รับเลือกให้เข้าป่า หมอกสายฟ้า ไม่ว่าอันตรายจากป่า
หมอกสายฟ้า ก็ไม่สามารถหยุดยั้งเสน่ห์ของคุณหนูได้
"ผู้ใด..คือโม่บ่อกี้ ? " ฮั่นหนิงร้องไห้จู่ ๆ
ยามก็เงียบทันที
รู้สึกว่าครึ่งชั่วยามผ่านไป แต่ไม่มีใครตอบ
คนส่วนใหญ่ที่นี่ไม่รู้ว่าใครเป็นโม่บ่อกี้
ใบหน้าของฮั่นหนิงเริ่มน่าเกลียดมากขึ้น
และนางตะโกนดังขึ้น "โม่บ่อกี้ ไม่ได้มารึ?"
ติงบู่เอ้อ รีบยืนไปข้างหน้าและกล่าวด้วยความลังเลว่า
"คุณหนูน้อยขอรับ , โม่
บ่อกี้ เพิ่งมาเมื่อวานนี้บางทีเขาอาจยังไม่ค่อยคุ้น ...ขอรับ "
ด้วยคำพูดของ ติงบู่เอ้อ
ใบหน้าของฮั่นหนิง เต็มไปด้วยโทษะมากขึ้นเรื่อยๆ "ทุกคนที่นี่จ
งวิ่งไปรอบ ๆ
สนามฝึกจนกว่า โม่บ่อกี้ จะมาถึง ทุกคนที่ หยุด
จะมีการหักค่าจ้างเป็นเวลา 1 เดือน"
ชายร่างผอมยืนขึ้นใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
และกล่าวกับยามข้างๆว่า " ฉางซ่งไค ไปนำไอ้ลูกเต่านั้นมา
"
" อืม
" ชายที่ดูก้าวร้าวตอบและรีบวิ่งออกจากสนามฝึกซ้อม
...
"ปังปัง!"
โม่บ่อกี้ ได้รับการปลุกให้ตื่นจากการเคาะที่ประตูของเขา
เขาเปิดตาของเขาและพบว่าท้องฟ้ายังแทบไม่สว่างไสว
ประตูถูกเคาะ
นี้ก็ไม่ได้เคาะอีกต่อไป
อย่าบอกข้าว่าผู้ดูแลตำหนักธรรมดา
ๆ ต้องตื่นขึ้นมาเร็วกว่าไก่ ขันเช่นนั้นรึ
"มีอะไรรึ?"
โม่ บ่ออกี้ เปิดประตูด้วยความโกรธ
"เจ้าต้องปฏิบัติตัวเองใหม่
เพราะเจ้า พวกเราทุกคนกำลังถูกลงโทษ โดยคุณหนูน้อย เร็วขึ้น!! เจ้าต้องตื่นเพื่อเข้าสู่สนามฝึกศิลปะการต่อสู้ให้เร็วขึ้น!" ยืนอยู่ที่ประตูเป็นชายที่ก้าวร้าวและจมูกสีดำ เอ่ย
โม่บ่อกี้ ยอมรับเขา
เขาอยู่ระหว่างการแนะนำ ของติงบู่เอ้อ เมื่อวานนี้ ชื่อของ
มันคือฉางซ่งไค
โม่บ่อกี้
ขมวดคิ้วเล็กน้อย และถามว่า "ท้องฟ้ายังไม่สว่างเท่าไหร่เลยเกิดสิ่งใดขึ้น
รึ?"
เขายังคงรู้สึกไม่สบายใจที่ผู้เข้าร่วชุมนุม
ปลุกเขาขึ้นทันทีทันใด
" เจ้าจะพลาดไปที่
ป่าหมอกสายฟ้าในวันนี้ และตอนนี้คุณหนูกำลังเลือกคนที่จะติดตามตามนาง
แต่เจ้าไม่เชื่อฟังคำสั่งรวมตัวและยังคงอยู่ที่นี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม
ถึงมีคนที่เรียกว่าเจ้าว่าหยิ่ง เจ้านั้นหยิ่งพยองอย่างแท้จริง!"ฉางซ่งไค จ้องมองที่ โม่บ่อกี้ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็น
ก่อนหน้านี้เขากำลังพยายามหาวิธีหา
ฮั่นหนิง ตอนนี้ฮั่นหนิงไปที่ป่า หมอกสายฟ้า และกำลังหาผู้ติดตาม
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกหรือ?
โม่บ่อกี้ ตอบในที่สุดและรีบกล่าวว่า
"รอสักครู่ ข้าจะเตรียมพร้อมเร็ว
ๆ นี้"
จบคำพูดของเขา โม่บ่อกี้
รีบวิ่งไปล้างตัวและเดินตาม ฉางซ่งไค ไปที่สนามฝึกซ้อม
"ชาย
ฉาง เจ้าบอกว่าใครบางคนเรียกข้าว่าหยิ่ง แต่ข้านั้นพึ่งมาถึงเมื่อวานนี้?"
โม่บ่อกี้ เล่าถึงคำพูดของ ฉางซ่งไค
ฉางซ่งไค ขี้เกียจที่จะกังวลเกี่ยวกับโม่บ่อกี้
มันเงียบและเร่งฝีเท้าของมัน
"งั้น
... เจ้าคงคือโม่บ่อกี้ ?" ช่วงเวลาที่ โม่บ่อกี้เข้าไปในสนามฝึกซ้อมเสียงดังขึ้นเต็มไปด้วยความโกรธและเรียกร้องให้เขา
Immortal จอมราชันย์อัมตะ
ผู้แต่ง: Goose
Five ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ
เเมวนอ้วน
ตอนนี้ปรับแก้
เรื่องเนื้อหาที่ยาวให้เเล้วนะครับ เนื่องจาก
เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ
เราได้แปลลง blogก่อน จะมาลงในdek-d ครับ
ฝากคอมเมนให้กำลังใจ
ด้วยครับ
จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น