วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 63: ความตื่นเต้นเมื่อพบหน้า


บทที่ 63: ความตื่นเต้นเมื่อพบหน้า

เดอะแพนด้าทีม ไก่ในเตาย่าง และ แมวหลับ แปล

"... งานชุมนุม ประตู แห่งน้ำพุอมตะ เปิดอย่างเป็นทางการ! ข้าหวังว่านิกายต่างๆ จะโชคดีในการหาสาวกที่มีพรสวรรค์ และสำหรับอัจฉริยะที่เข้าร่วมการชุมนุมของเรา พวกเจ้าอาจจะ 'ก้าวข้ามไปสู่ความเป็นอมตะและอยู่เหนือความตาย"

ด้วยการกล่าวสุนทรพจน์ของ องค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรชิงฮั่น งานชุมนุมประตูแห่งน้ำพุอมตะ ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ  ผู้คนก็ต่อแถวกันอย่างแน่นขนัด หน้าทางเข้าที่กว้างสักเมตรเศษๆ ตรงลานหินอ่อนกลางจตุรัส

เมื่อ องค์จักรพรรดิแห่งชิงฮั่น ลงมาเจ้าหน้าที่สองคนที่รับผิดชอบในการบันทึกผลการทดสอบยืนอยู่ที่ด้านข้างของเสาคริสตัลทั้งสองด้าน

หนึ่งคนในนั้นคลี่ม้วนหนังที่มีข้อความในนั้นแล้วประกาศว่า " โอ ซูวชี เเห่งฉางลู่ เข้าสู๋สถานที่ทำการทดสอบ เหว่ยชี เเห่ง ฉางลู่ เตรียมตัวให้พร้อม ... "

หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รายงานชื่อทั้งสองชื่อแล้ว เด็กหนุ่มที่สวมเสื้อสีทองก็โผล่ขึ้นมาจากเเถวและรีบเดินไปที่หน้าเวทีหินอ่อน ด้วยการกระโดดและตีลังกาขึ้นบนเวที หลังจากที่ขึ้นบนเวทีเขาไม่ได้เดินไปทางเสาคริสตัล แต่กลับหันหน้าเข้าหาฝูงชน

เด็กหนุ่มคนนี้มีรูปร่างที่งดงาม แม้แต่ผู้หญิงสองสามคนก็กรีดร้องทางด้านข้าง
เฉินเหลียน ยิ้มเยาะผู้ชายคนนี้ชอบที่จะแสดงออกจริงๆ ถ้าเขามีสวรรค์บางอย่างที่ท้าทาย รากฐานทางจิตวิญญาณ สำนักและวิหารทั้งหลายคงจะไม่ปล่อยเขาไป"

เด็กหนุ่มที่สวมเสื้อสีทองยืนอยู่หน้าเสาคริสตัล มีธารสีน้ำตาลปรากฎเพิ่มขึ้นจากเสาถึง หนึ่งเมตรครึ่งก่อนที่มันจะหยุดลง

เจ้าหน้าที่ด้านอื่น ๆ ของเสาประกาศว่า "โอ ซูวชี เเห่งฉางลู่  รากระดับกลางคุณสมบัติ กลาง ต่ำ

โม่บ่อกี้ รู้สึกว่าชายหนุ่มที่สวมเสื้อสีทองมีสีหน้าค่อนข้างพอใจ เขาคงรู้เกี่ยวกับระดับชั้นของจิตวิญญาณของตัวเองอยู่แล้ว และรู้ว่ามันพอที่จะเข้าไปในวิหารหลานแห่งในการเป็นศิษย์ชั้นนอก

แต่ว่า ท่าทางของชายหนุ่มกลับชะงักค้างไป ไม่มีวิหารใดๆสนใจเขา

สิ่งที่ จักรพรรดิแห่งชิงฮั่น ได้พูดมาดูเหมือนเป็นว่าเห็น หนทาง่ายๆสำหรับผู้ที่มีรากฐานทางจิตวิญญาณ เพื่อเข้าสู่วิหารที่พวกเขาต้องการ อย่างไรก็ตามสิ่งที่จำเป็นสำหรับเขาคือความสนใจของวิหาร ถ้าไม่มีวิหารใดแสดงความสนใจ ก็ไม่มีความหมายแม้ว่าจะมีรากฐานทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เพียงไหนก็ตาม

เด็กหนุ่มชุดทอง ยังคงยืนนิ่งเหมือนรากงอกติดกับพื้นด้วยความโกรธ เมื่อเห็นว่า โอซูวชี ยังคงยืนอยู่บนแท่น เจ้าหน้าที่ประเมินจึงพูดเชิงดูถูกว่า "เจ้ายังไม่ได้รับเลือก ลงมาซะ"

"ถูกแล้ว… ถูกแล้ว ... " โอซูวชี ในที่สุดก็เดิน สนามหินอ่อนพร้อมใบหน้าที่ปนแดง

โม่บ่อกี้ ส่ายหัว แม้ว่าจะได้รับการคัดเลือกจากวิหาร เขาก็จะไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เขาเริ่มจากแสดงออกก่อนที่ผลลัพทางรากฐานของเขาจะได้รับการประกาศออกมาเท่านั้น จึงจบลงด้วยความย่อยยับและอับอาย นี่ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย

ในตอนนี้ มีแสงสีน้ำตาลสูงสามเมตร ออกมาจากจากเสาคริสตัล

"... เหว่ยซี เเห่งฉางลู่ รากฐานจิตวิญญาณปฐพี คุณสมบัติ: กลาง-สูงเจ้าหน้าที่ประเมินกล่าวออกมาอีกครั้ง

ขณะนี้แท่นบูชาของนิกายสองแห่งสว่างไสวด้วยแสงสีทอง โม่บ่อกี้ จึงซักถาม เฉินเหลียน "เฉินเหลียน มีสองวิหารที่ให้ความสนใจใน เหว่ยซี เเล้วทำไมมีเพียงสองวิหารล่ะที่สนใจในรากฐานทางจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูงหรือ  อย่าบอกข้านะว่าวิหารเพียงมองหาผู้ที่มี รากฐานทางจิตวิญญาณที่สูงส่ง"

เฉินเหลียน ตอบว่า " ปกติเเล้วมันไม่เป็นเช่นนั้นหรอกยกเว้นกรณีที่เป็นอัจฉริยะระดับสูงสุด  วิหารมักจะไม่แข่งขันเพื่อเเย่งศิษย์  ทั้งสองนิกายอาจแสดงความสนใจในเวลาเดียวกัน แต่โดยปกติแล้วเจ้าจะเห็นเพียงแสงเดียวเท่านั้น ."

"นิกายระดับปฐพี วิหารทวนสุวรรณ และ สำนักวิหคอัคคี ได้เลือก เหว่ยซี ในเวลาเดียวกัน  เหว่ยซี จะเลือกวิหารของเขาหลังจากนี้ ฉางเฟย เเห่งฉางลู่ ถึงคิวการใช้การทดสอบ ... "

เจ้าหน้าที่ยังคงเรียกหา อยู่พักๆ

หลังจากที่ความอิจฉาของหลายๆคนที่มีต่อ เหว่ยซี ที่ไม่เพียงแต่เขาได้รับการสนับสนุน จากวิหารระดับปฐพี เขายังมีสิทธิ์ที่จะเลือกวิหารเอง

เมื่อดวงตาของทุกคนที่จับจ้องไปที่ เหว่ยซี แสงสีแดงที่สูงตระหง่านก็ดึงทุกสายตา กลับไปที่เสาคริสตัล แสงนี้มีความสูงประมาณ สี่เมตรครึ่ง ถ้ามันสูงนิดหน่อยก็จะถึงจุดสูงสุด ถึงกระนั้นมันก็เป็นเสาที่พราวแสงเรืองรองออกมา

นี่เป็นเหมือนการตอกย้ำของ โม่บ่อกี้ ถึง ย่านเอ้อ เมื่อนางได้ทดสอบรากฐานทางจิตวิญญาณของนางแล้วก็มีเสาไฟสูงตระหง่านคล้ายๆกัน แสงของนางอาจไม่สูงเท่ากับ ฉางเฟย นี้แน่นอนเพราะเสาคริสตัลทดสอบของนางนั้นต่ำกว่าเสามารตฐานนี้

"ฉางเฟย เเห่งฉางลู่ มีรากฐานทางจิตวิญญาณไฟระดับสูง คุณสมบัติ สูง สูง ... " เจ้าหน้าที่ประกาศด้วยเสียงที่ดังสนั่น

ในขณะที่เขาประกาศผลไฟบนแท่นบูชามากกว่า สิบดวงที่มีแสงสีทอง เห็นได้ชัดว่า ฉางเฟย ได้ดึงดูดมากกว่าสิบวิหารเพื่อแย่งตัวเขา

"นิกายระดับกึ่งนภา วิหารสวรรค์ นิกายวิทูรอัคคี วินิกายหยกพิสุทธ นิกายอสูร  นิกาย ... "

ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้รายงานชื่อของวิหารที่สนใจ เฉินเหลียนถึงกับพึมพำด้วยประหลาดใจว่า "อะไรกัน ในเวลาสั้นๆ นิกายเกือบทั้งหมดของนิกายระดับสกึ่งนภา ของอาณาจักรชิงฮั่น ได้เข้าร่วมการแย่งชิง"

โม่บ่อกี้ กำปั้นของเขาแน่น เพราะเขาก็นึกถึงผู้หญิงที่ เขาชิงชังที่แย่งตัว ย่านเอ๋อ ไปจากเขาและเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ นี่คือสถานที่ที่ ย่านเอ๋อ ควรจะได้มา นางควรจะอยู่ที่นี่ เลือกนิกายของนาง แทนที่จะถูกลักพาตัวหายไปอย่างเงียบเชียบ

มีนิกายกึ่งสวรรค์มากมายที่นางสามารถเลือกได้

ภายใต้สายตาที่น่ากลัวและอิจฉาของกลุ่มคน ฉางเฟยได้เลือก วิหารสวรรค์

ในการทดสอบต่อไปนี้ไม่มีรากฐานทางวิญญาณที่สูงส่งอีกต่อไป สิ่งที่ดีที่สุดคือรากฐานทางจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูง ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มีรากฐานทางจิตวิญญาณระดับต่ำตามด้วยรากฐานทางจิตวิญญาณระดับกลาง

"บ่อกี้ จริง ๆแล้วข้ามีรากฐานทางจิตวิญญาณระดับปฐพีชั้นกลาง ข้าได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือก...ติงบู้เอ้อ เรียกร้องออกมาด้วยเสียงดัง โม่บ่อกี้หันกลับไปและเห็นร่างของ ติงบู้เอ้อ ที่กำลังตื่นเต้น

"บู้เอ้อ ข้ายินดีกับเจ้าด้วยโม่บ่อกี้ มีความสุขจริงๆสำหรับข่าวดีของ ติงบู้เอ้อ

"ทำไมเจ้าไม่ไปลองดูล่ะเผื่อเจ้าจะโชคดีเฉินเหลียน ถาม โม่บ่อกี้ ด้วยความสงสัย

โม่บ่อกี้ ไม่ได้พูดอะไร เขามี แค่รากมนุษย์เท่านั้นไม่มีโชคใดที่เขาจะต้องลอง

"เอ๋!!!!  เหวินหม่านซู กำลังขึ้นไปบนเวที ... " ติงบู้เอ้อ ร้องโพล่งออกมา เขาลืมเรื่องราวระหว่าง เหวินหม่านซู เเละ โม่บ่อกี้ ไปเสียสนิท

ลำแสงสีแดงโผล่ออกมาจากเสาและเพิ่มขึ้นเป็น สองเมตรครึ่ง โม่บ่อกี้ ถอนหายใจในหัวใจของเขา เหวินหม่านซู่ มีรากจิตวิญญาณไม่เลวร้ายนัก

ตามปกติเจ้าหน้าที่รายงานว่า "เหวินหม่านซู เเห่งฉางลู่ ไฟสีเเดงมาารตฐานสูงรากฐานทางจิต คุณสมบัติ กลาง  สูง"

ไฟสีทองสามดวงสว่างขึ้นพร้อมกัน เห็นชัดว่ามีความน่าสนใจในจิตวิญญาณของ เหวินหม่านซู โม่บ่อกี้ เห็นแสงไฟของ วิหารสวรรค์ ขึ้นมาและรู้ทันทีว่า เหวินหม่านซู่ จะเลือก วิหารสวรรค์

"ผู้หญิงคนนี้เป็นคนโชคดีจริงๆติงบู้เอ้อรู้สึกอิจฉาอย่างมาก

โม่บ่อกี้ หัวเราะ รากฐานทางจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูง แล้วยังไงล่ะ เขาไม่ได้มีรากฐานทางจิตวิญญาณ แต่เขาก็ไม่ด้อยกว่าอัจฉริยะที่มีรากฐานทางจิตวิญญาณที่มีคุณภาพสูง

ออกไปให้พ้น! ทำไมถึงมีขอทานเยี่ยงเจ้าอยู่ใน งานชุมนุมประตูแห่งน้ำพุอมตะนี้ได้ ช่างน่าอับอายเสียจริง” เสียงที่ก้าวร้าวเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว โม่บ่อกี้ พร้อมกับ เสียงโอดโอยด้วยความเจ็บปวดที่แหบแห้งอีกเสียงหนึ่ง

โม่บ่อกี้ หันหลังกลับและเห็นหญิงสาวผอมแห้งที่ถูกเตะ เมื่อนางล้มลงหัวใจของ โม่บ่อกี้ ก็เต้นไม่เป็นจังหวะ จากนั้น โม่บ่อกี้ ก็รีบวิ่งไปหานาง

ย่านเอ๋อ นางต้องเป็น ย่านเอ๋อเเน่ๆ ... แน่นอนเขาดูไม่ผิด แต่ ... ทำไม ย่านเอ๋อ ถึงมาอยู่ที่นี่ นางตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร
////////////////////////////////////////////////////////////////////////
แมวอ้วน : โอย สามย่อหน้าสุดท้ายใจจะขาด (ผู้แปลก็ไม่ได้อ่านเรื่องมาก่อนหน้าการแปล เพื่อที่จะรักษาอรรถรสในการแปลให้สดที่สุด จึงเกิดการแปลที่ไม่ค่อยนุ่มนวลนัก ต้องขออภัยไว้ ณ. ที่นี้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น