วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 58: มุ่งหน้าสู่ทะเล



Immortal  จอมราชันย์อัมตะ

                 ผู้แต่ง: Goose Five  ผู้แปล : ไก่ในตำนาน เเละ เเมวนอ้วน


ฝากคอมเมนให้กำลังใจ ด้วยครับ จะพยายามๆแปลเเละลงให้ทุกวันครับ
สามารถเข้ามาพูดคุยเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่  



บทที่ 58: มุ่งหน้าสู่ทะเล
เดอะแพนด้าทีม ไก่(ใน)แช่เหล้า แมวอิ่ม(แปล) แปล
"ไม่ต้องเป็นห่วงพี่เสิ่นยีหรอก.." ติงบู้เอ้อ พูดแล้วก็ถอนหายใจ หลังจากที่ หยวนเสิ่นยี เดินลับตาไป

"บู้เอ้อ ข้าจะออกไปล่าจระเข้สายฟ้าหกขา เจ้าจะมาอยู่แถวชายหาดนี่ทำไม ทำไมเจ้าไม่ไปพักที่ที่พักของข้าล่ะ แล้วรอข้ากลับมาหลังจากนั้นเราจะ ไปที่งานชุมนุมประตูแห่งน้ำพุอมตะด้วยกัน" โม่บ่อกี้ เสนอให้ ติงบู้เอ้อ พักที่ห้องของเขา เพราโม่บ่อกี้ เดาได้ว่า ติงบู้เอ้อ คงไม่มีที่พักหลังจากถอนตัวจาก ฮั่นหนิง

ติงบู้เอ้อ มอง โม่บ่อกี้ ด้วยความตกใจ " บ่อกี้ เจ้ารู้รึไม่ว่าจระเข้สายฟ้าเหล่านี้แข็งแกร่งมากนัก เจ้าจะไปรนหาที่ตายหรือ"

โม่บ่อกี้ มองตามทางที่ หยวนเสิ่นยี เดินจากไป แล้วพูดด้วยเสียงหนักแน่นว่า  "เสิ่นยี เลือกที่จะไล่ล่าตามความฝันของตัวเขาเองและลงมือทำมัน แม้ข้าจะไม่มีรากฐานทางจิตวิญญาณ ข้าเองก็ต้องบุกเบิกแผ้วถางหนทางชีวิตของข้า เจ้าเองน่าจะรู้ว่า ข้าค่อนข้างจะทนต่อฟ้าผ่า และข้าเคยฆ่าจระเข้สายฟ้าได้สองตัวมาแล้วก่อนหน้านี้ ข้ารู้ว่ามันอันตรายมาก แต่มันเป็นทางเลือกที่ข้าต้องทำ หากไม่ทำข้าก็จะมีชีวิตเช่นเดิม เจ้าก็มีอิสระที่จะทำสิ่งที่เจ้าต้องการได้เช่นกัน"

ติงบู้เอ้อ กำหมัดแน่น ตอนนี้เขารุ้สึกเสียใจมากกว่าจะตกใจ เขาจะอยู่เฉยได้อย่างไรเมื่อทั้ง หยวนเสิ่นยี และ โม่บ่อกี้ มีความทะเยอทะยานเช่นนี้

"บ่อกี้ ข้าจะติดตามเจ้า หากเจ้าจะไปล่าจระเข้สายฟ้าหกขา  ข้าก็จะไปช่วยเจ้าหาของมีค่าจากตัวมันออกมา" ติงบู้เอ้อ ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

แทนที่จะต้องทนมีชีวิตเหมือนหมาข้างถนน เขาเลือกที่จะเสี่ยงชีวิตในที่ที่อันตราย แม้จะต้องตายก็จะไม่ต้องเสียใจอะไร และไม่มีครรุ้หรอกว่าพวกเขาจะต้องตายหรือไม่

ทำไมเจ้าทั้งสองไม่มาเข้าร่วมพวกเราเพื่อล่าจระเข้สายฟ้าล่ะ ชายร่างสูงคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงแหบ

ชายเอวหนาผู้นี้มีความสูงเกินกว่าสองเมตร ด้านหลังชายร่างสูงที่ดูแข็งแกร่งและดุดันผู้นี้ มีชายอีกคนที่ทั้งเตี้ยและผอมบาง กับกับผู้หญิงที่มีผมสั้นเรียบร้อย

"พวกท่านทั้งสามคน กำลังวางแผนที่จะไปล่าจระเข้สายฟ้าด้วยหรือ" โม่บ่อกี้ ถามด้วยความสังสัยเพราะเขาไม่เชื่อว่านี่จะเป็นเรื่องบังเอิญ

ชายร่างสูงจึงหัวเราะ แล้วพูดว่า "เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง พวกเราไม่ได้ออกไปล่าจระเข้สายฟ้า พวกเราเพียงผ่านเส้นทางที่มีจระเข้สายฟ้าจำนวนมากระหว่างทาง เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางของเราเท่านั้น "

"ข้าถามได้ไหมว่าพวกท่านกำลังหาอะไร" โม่บ่อกี้ ถามออกมาตรงๆเพราะเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้เจตนาของพวกเขา หากพวกเขาจะร่วมมือกัน

"ก็ได้ มันก็ไม่ได้มีค่าอะไรที่จะต้องปิดบังหรอก พวกเรากำลังจะออกไปหาไข่ของ เสือดาวทะเลมีปีก ราคาของเจ้าไข่พวกนี้จะพุ่งสูงขึ้น เมื่อมี งานชุมนุมประตูแห่งน้ำพุอมตะ ขึ้นในเมือง ตอนนี้ใกล้กับวันเปิดงานมากขึ้นทุกที ถ้าเราโชคดีเราสามารถหาเจ้าไข่พวกนีได้ โอกาสที่จะกลายเป็นศิษย์บริการในนิกายในความเป็นจริง ถ้าสังเกตรอบๆตัวเจ้า เจ้าคงจะเห็นว่าส่วนใหญ่ของกลุ่มคนเหล่านี้ จะออกไปค้นหาไข่ของเสือดาวทะเลมีปีก

"สัตว์ทะเลชนิดนี้คืออะไร" โม่บ่อกี้รู้สึกสับสนกับคำเหล่านี้

ชายร่างสูง หัวเราะ ตอบว่า "ฮ่าๆ ฮ่า  ถ้าข้าไม่ได้ยินว่าเจ้าฆ่าจระเข้สายฟ้าได้
สองตัว  ข้าคงจะสงสัยในความแข็งเเกร่งของเจ้า เสือดาวทะเลมีปีกไม่ได้เป็นสัตว์ทะเล มันเป็นสัตว์อสูรตัวเล็กๆ และความสามารถที่ดีที่สุดของมันคือบินได้ ผู้บ่มเพาะพลังหลายคนเลือกใช้เสือดาวทะเลมีปีกพวกนี้ เป็นพาหนะของพวกเขา ถ้าเจ้าเลี้ยงมันมาตั้งแต่อยุ่ในไข่เจ้าก็จะเลี้ยงมันให้เชื่อได้ไม่ยาก นอกจากนี้เสือดาวทะเลมีปีกสามารถเดินทางได้ทั้งบนบกและในน้ำ นอกจากนี้ เสือดาวทะเลมีปีกบางตัว ซ่อนตัวอยู่ตามชายหาดของ ฉางลู่ ความสามารถในการต่อสู้ของเสือดาวทะเลมีปีกนั้น ไม่แข็งแกร่งนักเมื่อเทียบกับจระเข้สายฟ้า แต่สิ่งที่น่าปวดหัวคือเหล่าเสือดาวทะเลมีปีกมักเลือกอยุ่ในพื้นที่ที่มีจระเข้สายฟ้าอยู่รอบๆ

โม่บ่อกี้ เชื่อคำพูดของชายผู้นี้ แต่เขาก็ยังไม่สามารถที่จะคิดเหตุผลที่คนพวกนี้ต้องการที่จะร่วมทีมกันกับ ติงบู้เอ้อ และตัวเขาออก แม้ว่าเขาจะพูดเขาฆ่าจระเข้สายฟ้าได้สองตัว เเล้วใครจะรู้ล่ะว่าเขาใช้วิธีอะไร คนทั้งสามทำไมถึงมั่นใจว่าพวกเขามีความสามารถมากพอ

 ถึงอย่างนั้น โม่บ่อกี้ ก็คิดว่าเขาไม่มีอะไรจะต้องเสียในการรวมทีมกับคนพวกนี้ ด้วยเหตุนี้เขาจึงตอบว่า "เอาล่ะ ข้าตกลงจะร่วมงานกับเจ้า เพื่อความยุติธรรม ถ้าพวกเราถูกจู่โจมด้วยจระเข้สายฟ้าจำนวนมากทุกคนก็ต้องมาช่วยกัน นอกจากนี้เราอยากจะได้รับไข่บางส่วนถ้าเราช่วยให้เก็บได้มากขึ้น"

"ข้าชอบนะ ตกลงตามนั้น ข้าชื่อ จี้ กวง และพวกนี้คือเพื่อนของข้า เกา จั้น และ ซุน ลี่อัน เจ้าต้องการเวลาเตรียมตัวหรือไม่ เราเดินทางได้ทันทีหากเจ้าพร้อม"

โม่บ่อกี้ รีบตอบว่า "ทำไมพวกเราถึงไม่ไปกันเลยล่ะ ข้าไม่ต้องเตรียมตัวอะไร พวกเราจะไปกดันตอนไหนแล้วจะเดินทางกันอย่างไร

จี้กวง ตอบว่า "อย่างช้าที่สุดก็หนึ่งวัน เพื่อไปถึงทะเลเจ็ดเหลี่ยม เราควรจะสามารถหาไข่ได้ในสองวัน ถ้าเราโชคดี ถ้าโชคไม่เข้าข้างเราก็จะหาไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าจะมีการจัดงาน ชุมนุมประตูแห่งน้ำพูอำมตะ ขึ้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะพวกเราสามคนต้องการเข้าร่วมการชุมนุมด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราเสียเวลานานเกินไปไม่ได่

มีข่าวลือว่า เมืองฉางลู่ มีชื่อเสียงเพราะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับทะเล ฉางลู่ จึงเรียกว่าเมืองริมทะเล ทะเลในฉางลู่ มีมากมายกว้างใหญ่ไพลศาล มีสถานที่ที่มีอันตรายมากที่สุด ที่อยู่ใกล้กับฉางลู่ก็คือ ทะเลเจ็ดเหลี่ยม

ทะเลเจ็ดเหลี่ยม ประกอบไปด้วย เกาะภูเขากลางทะเลเจ็ดแห่ง ที่เรียงต่อกัน ทำให้มี ทะเลขนาดเล็กอยู่ระหว่างกลาง มันอยู่ใกล้กับ ฉางลู่ เมื่อมองดูจะเป็นเหมือนหางที่ยื่นลงไปในทะเล ไม่กี่ปีที่ผ่านมาจำนวนการจับ เสือดาวทะเลมีปีก เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่เห็น เสือดาวทะเลมีปีก ในทะเลเจ็ดเหลี่ยมอีก การจับเสือดาวทะเลมีปีกสักตัว เราอาจต้องออกไปทะเลเกือบทั้งวัน

โม่บ่อกี้ และพวกพ้องของเขาออกเดินทางก่อนดวงอาทิตย์จะตกและถึงทะเลเจ็ดเหลี่ยมในตอนเช้า

"แท้จริงแล้วมีผู้คนมากมายที่นี่" โม่บ่อกี้ สังเกตเห็นรถม้าเทียมอสูรลากรถขนาดใหญ่จำนวนมาก จอดอยู่ที่นี่

"ทุกคนต้องระวังให้ดี เพราะคนส่วนใหญ่มาที่นี้ มาเพื่อ ไข่ของเสือดาวทะเลมีปีก เราควรพยายามหลีกเลี่ยงการเชข้าใกล้ที่ที่มีคนให้มากที่สุด เพราะหลายคนที่นี้จะเป็นพวกมิจฉาชีพปล้นผู้อื่น พวกเขาจะปล้นเราเพื่อหาไข่ ดูเหมือนว่าตแนนี้เราต้องออกทะเลเพื่อหาไข่เหล่านี้เเล้ว

"เราต้องแล่นเรือไปทางขวาหรือไม่ ถ้าต้องการออกทะเลเราจะต้องมุ่งหน้าไปยังเรือที่มีผู้คนจำนวนมากหรือไม่" ติงบู้เอ้อ ถาม จี้กวงที่เงียบอยู่ด้วยความสงสัย

จี้กวง หัวเราะเยาะ ติงบู้เอ้อ และกล่าวว่า "ถ้าพวกเราหลายคนออกทะเลด้วยกันเราจะมีโอกาสจับไข่ได้อย่างไร"

จี้กวง กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "แม้ว่าจะมีร้านเช่าเรืออยู่ใกล้ๆ แต่ข้าไม่ได้จะไปเช่าเรือ เรานำสิ่งของของเรามาเอง"

จี้กวัง หยิบพัสดุขนาดใหญ่ออกจากกระเป๋าของเขาซึ่ง โม่บ่อกี้ สงสัยว่า ก่อนหน้านี้มันอยู่ที่ไหน

"นี่คืออะไร" ติงบู้เอ้อ หลุดถามออกมาโดยไม่ตั้งใจ

โม่บ่อกี้ บอกได้ทันทีว่ามันเป็นเรือยางแบบเป่าลม อย่างไรก็ตามเขาแน่ใจว่ามันไม่เป็นอะไรพื้นๆเหมือนกับยางธรรมดา

"นี่เป็นเรือยาง" จี้กวง ดึงฝาครอบออกแล้วเรือยางก็เริ่มพองตัวเอง ในเวลาไม่กี่วินาทีเรือยางยืดออกไปยาวเจ็ดเมตรและกว้างสามเมตร

"นี่มันสะดวกมาก " ติงบู้เอ้อ อุทานด้วยความแปลกใจ

โม่บ่อกี้ เงียบลงเพราะเขารู้ว่าสิ่งนี้มีความเสี่ยงมาก เมื่อพวกเขาออกไปในทะเล ถ้าหากพวกเขานั่งเรือนี้ออกไปในทะเลแล้วเจอกับสัตว์อสูรเข้า ไอ้ของสิ่งนี้จะจมลงในทะเลเพียงเพราะถูกกัดแค่เพียงครั้งเดียว แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขากังวลที่สุด เรื่อที่เขากังวลที่สุดคือ เขาไม่มีมอเตอร์บนเจ้ารือนี่  แล้วพวกเราจะใช้เจ้านี่ได้อย่างไร

"นอกจากพี่โม่ พวกเราอีกสี่คนดูจากเวลาและความเร็ว พวกเราน่าจะไปถึงจุดหมายก่อนที่ดวงอาทิตย์ตกได้ บริเวณนี้ควรมีจระเข้สายฟ้าและไม่มีสัตว์อสูรอื่นๆอีก "

หลังจากที่พูดจบ ตาของเขาก็จ้องมองมาที่ โม่บ่อกี้ แล้วพูดว่า "พี่โม่ ท่านมีความสามรถต้านทานการโจมตีด้วยสายฟ้าได้ ถ้าพวกเราถูกจู่โจมด้วยจระเข้สายฟ้า ท่านช่วยป้องกันการโจมตีแทนพวกเราสี่คน แล้วให้พวกเราเร่งฝีพายเต็มที่ขอเพียงพวกเราผ่านบริเวณนี้ไปได้ จระเข้สายฟ้าก็จะไม่ตามล่าพวกเรา

โม่บ่อกี้ จึงเข้าใจในที่สุดว่า ทำไมเขาถูกขอให้เข้าร่วมทีมของคนพวกนี้ แม้ว่าพวกเขาจะบอกว่า ติงบู้เอ้อ และ ตัวเขาเองไม่แข็งแกร่งนัก การที่ได้ ติงบู้เอ้อ และตัวเขามาร่วมกลุ่ม จะทำให้คนกลุ่มนี้ได้คนช่วยพายเรือและคนที่จะรับการโจมตีและคอยต่อต้านการโจมตีจากสายฟ้าของจระเข้สายฟ้าหกขา

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

แมวอ้วน : ….พี่โม่ตูเปลายเป็นตัวแทงค์ไปซะงั้น
ไก่ในตำนาน : คร่อกกก…………..
แมวอ้วน : หลับทิ้งกูอีกละ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น