วันจันทร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

บทที่ 67: การเข้าสู่นิกาย


บทที่ 67: การเข้าสู่นิกาย

เดอะแพนด้าทีม ไก่ในเตาอบ และ แมวร้อน แปล

"นางคือใคร.." ฉินเซียงหยูได้สังเกตเห็น ย่านเอ๋อ ที่อยู่บนหลังของ โม่บ่อกี้ ได้สักพักเเล้วหลังจากทักทายโม่บ่อกี้ เสร็จนางจึงถามเกี่ยวกับ ย่านเอ๋อ

โม่บ่อกี้ ตอบว่า"นางคือสมาชิกในครอบครัวคนเดียวของข้าร่างกายของนางอยู่ในสภาพไม่ดีนัก ดังนั้นข้าจึงนำนางมาพร้อมกับข้าด้วย"

ฉินเซียงยู่ พูดทันทีว่า"ไม่เป็นไรพวกศิษย์รับใช้หลายคนก็พาครอบครัวไปด้วยเช่นกันหลังจากนั้น บางทีสมาชิกในครอบครัวของพวกเขาก็สามารถเข้าร่วมเป็นศิษย์รับใช้ได้ด้วยเช่นกัน"พวกเขาเดินช้าๆภายในที่ตั้งแคมป์

"ศิษย์น้องเล็ก ฉิน"

"ศิษย์น้อง ฉิน... "

ขณะที่ โม่บ่อกี้ เดินตามฉินเซียงหยูมีหลายๆคนทักทายนางตลอดทาง เห็นได้ชัดว่า ฉินเฉียงหยู่ นางค่อนข้างเป็นที่นิยมชมชอบของคนที่นี่

โม่บ่อกี้เดาได้ว่านอกเหนือจากเสน่ห์ที่น่าทึ่งของ ฉินเซียงหยูที่ทำให้ผู้คนชื่นชอบนางเเล้ว อาจเป็นเพราะพี่ชายของนางอีกด้วย เขาไม่ได้เป็นคนที่มีสถานะต่ำต้อย

"พี่ชายของเจ้าอยู่ที่นี่หรือไม่ข้าคิดว่าข้าควรจะขอบคุณเขา" โม่บ่อกี้ ถาม การที่เขาสามารถเข้าสู่ นิกายดาบไร้ลักษณ์ได้เนื่องมาจาก ฉินเฉิน ถ้า ฉินเฉินอยู่ที่นี่เขาควรแสดงความกตัญญูและขอบคุณต่อ ฉินเฉิน อย่างใจจริง

"เขาไปแล้ว  ข้าได้ยินมาว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นและเขาต้องการที่จะกอบโกยเวลาให้ได้มากที่สุดเพื่อฝึกฝน" ฉินเซียงหยู รีบอธิบาย

ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงห้อง ห้องหนึ่งโม่บ่อกี้ เห็นป้ายที่เขียนว่า "ห้องลงทะเบียนศิษย์รับใช้" นี่อาจเป็นที่ที่เขาจะลงทะเบียนเพื่อเป็นศิษย์รับใช้

ฉินเซียงหยู กระซิบกับ โม่บ่อกี้ ว่า "คนที่ดูแลศิษย์รับใช้ทั้งหมดคือ ผู้ดูเเล อู๋ไค  ข้าได้บอกเขาเกี่ยวกับตัวเจ้าไปบ้างแล้วเจ้าไม่ต้องเป็นห่วง"

ฉินเซียงหยู่ เคาะเบาๆที่ประตู ผ่านไปสักพักหนึ่งประตูที่ปิดดสนิทอยู่ก็เปิดในที่สุด เด็กสาวที่มีผมยุ่งเหยิงเดินออกมาเท้าของนางเซเล็กน้อยและใบหน้าของนางก็แต่งแต้มไปด้วยสีแดง

โม่บ่อกี้ ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็รุ้ได้ทันที และเขารู้ว่าฉินเซียงหยูกับเขาได้ขัดจังหวะเวลาหาความสุขของ อู๋ไค ไปเสียแล้ว

อู๋ไคเป็นชายวัยกลางคนที่มีหน้าตาที่ดุร้ายนัยน์ตาของเขาเหมือนรูเข็มและริมฝีปากของเขายื่นออกมา เขาดูน่าเกลียดมากเมื่อเขาเห็น โม่บ่อกี้ เดินเข้ามาท่าของเขา เริ่มเปลี่ยนไปเป็นน่าเกลียดกว่าเดิมและสายตาของเขาเผยถึงความรู้สึกไม่พอใจ
         
อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นฉินเซียงหยู ท่าทีที่ไม่พอใจของเขา ก็หายไปในทันที และเขาหัวเราะแล้วพูดว่า
"ศิษย์น้องเล็กฉิน เจ้าตามหาข้า อยู่หรือ"

ฉินเซียงหยู ยิ้มและคำนับก่อนที่จะพูดว่า "ผู้ดูเเลอู๋คือเพื่อนของข้า โม่บ่อกี้ ในวันหน้าเขาจะทำงานภายใต้การดูแลของท่าน ข้าหวังว่าอาวุโสจะช่วยดูแลเขาเป้นอย่างดี"

อู๋ไค กระหยิ่มยิ้มย่องแล้วพูดว่า "แน่นอน แน่นอน ... แผนกอาหารกำลังขาดคนเขาไปทำงานที่นั่นได้เลย เขาจะได้กินอิ่น และมีชีวิตที่ดีถึงมันจะเป็นงานที่หนักอยุ่บ้างก็เถอะ"

โม่บ่อกี้ ขมวดคิ้ว เขาไม่ใช่คนตะกละเขาไม่ได้ต้องการที่จะกินของดีๆ แล้วถ้าเขาเป็นคนที่ดื่มกินจุมากจริงๆคนผู้นี้จะยอมให้เขาไปทำงานที่ครัวหรือ

ฉินเซียงหยู่ เข้าใจในตัว โม่บ่อกี้อยู่บ้างตามธรรมชาติของเขานางรู้ว่า โม่บ่อกี้ไม่ได้เข้าร่วมกับนิกาย ดาบไร้ลักษณ์เพื่อกินและดื่ม  โม่บ่อกี้ ยินดีที่จะเป็นศิษย์ที่นี้เพราะเขาต้องการที่จะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อการเพาะปลูก

จากประสบการณ์ที่เคยพักด้วยกันที่ห้องพักรวมบนเรือ โม่บ่อกี้ถามคำถามเกี่ยวกับการเพาะปลูกอยู่เสมอ จากนั้นนางก็คาดเดาความสนใจของเขาต่อการเพาะปลูก
"ผู้ดูเเลอู๋ไค มีตำแหน่งอื่นหรือไม่ อาจเป็นทำความสะอาดห้องโถงตำรา ... "

ฉินเซียงหยูยังไม่มีความเข้าใจที่ดีต่อฝ่ายรับใช้มากนัก แต่ว่า โม่บ่อกี้ต้องการรู้เรื่องการเพาะปลูกการทำความสะอาดโถงตำรา อาจเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเขา
อู๋ไค พูดอย่างอับอาย"ข้าเกรงว่ามันยากเกินไปตำเเหน่งนี้เต็มหมดแล้วและข้าก็ไม่สามารถเตะคนในนั้น ออกไปให้เขาได้"ถ้าไม่ใช่เพื่อพี่ชายของ ฉินเซียงหยู่ ฉินเฉิน ที่เป็นหนึ่งในสิบยอดอัฉริยะ ของนิกายดาบไร้ลักษณ์เขาจะไม่ให้ความสนใจกับนางเเม้เเต่น้อย ถ้าไม่มี ฉินเฉิน ศิษย์สายนอกอย่างนางคงไม่มีใครมองว่ามีตัวคน

โม่บ่อกี้ เข้าใจถึงความตั้งใจที่ของฉินเซียงหยู อย่างไรก็ตามเขาไม่เพียงต้องการที่จะเป็นศิษย์รับใช้เขาต้องการสิทธิพิเศษเพิ่มเติม โม่บ่อกี้ เห็นว่า อู๋ไค พูดไปลอยๆเท่านั้น เขาอาจจะไม่ช่วย โม่บ่อกี้ นอกจากนี้เมื่อพวกเขาเคาะประตูพวกเขาได้รบกวนเวลาหาความสุขของอู๋ไค

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ โม่บ่อกี้ พูดกับ ฉินเซียงหยู ว่า "ศิษย์พี่ฉินทำไมไม่กลับไปหาสิ่งที่ท่านกำลังทำก่อนหน้านี้ล่ะ  ข้าจะคุยกับ ผู้ดูเเลอู๋ เป็นการส่วนตัวเสียหน่อย"

ฉินเซียงหยู่ มองไปที่ โม่บ่อกี้ ด้วยความประหลาดใจ จากน้ำเสียงของ อู๋ไค นางก็พอเดาได้ว่า อู๋ไค ไม่ตั้งใจจะช่วยโม่บ่อกี้ ในความเป็นจริงนางก็จะหมดหนทาง ถ้า อู๋ไค ไม่ช่วยนางเเละนางเองก็สามารถเข้าสู่ นิกายดาบไร้ลักษณ์
ได้เพราะพี่ชายของนางไม่ใช่เพราะความสามารถของตัวเอง

โม่บ่อกี้ หัวเราะออกมาด้วยความหนาวเหน็บในหัวใจของเขา แต่ อู๋ไค ยังคงให้ความสำคัญกับฉินเซียงหยู และพูดว่า "ศิษย์น้องเล็กไม่ต้องกังวล ในวันหน้าเขาจะเป็นหนึ่งในคนของข้าแน่นอน ข้าจะดูแลเขาเอง"

"ดี..เช่นนั้นข้าขอลาไปก่อน พี่โม่ หากท่านต้องการอะไร โปรดมาหาข้าได้"  ก่อนที่นางจะจากไปฉินเซียงหยู ยังไม่ลืมที่จะเตือน โม่บ่อกี้

โม่บ่อกี้ พึ่งพาความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ ฉินเซียงหยู เพื่อเข้าสู่ นิกายดาบไร้ลักษณ์นอกจากนี้ ฉินเซียงหยู ยังถือว่าเป็นคนใหม่ของนิกาย และไม่มีอำนาจมากนัก เพราะโดยปกติแล้ว โม่บ่อกี้ จะไม่ลำบากในเรื่องนี้เลย

หลังจากที่ ฉินเซียงหยู จากไปรอยยิ้มของ อู๋ไค ก็หายไปอย่างรวดเร็วและพูดเบาๆว่า "จริงๆแล้วพวกเรามีศิษย์รับใช้มากพอแล้วถ้าไม่ใช่ความช่วยเหลือของพี่ชายของศิษย์น้องฉิน เพียงแค่แผนกอาหารเจ้าก็จะไม่สามารถเข้าได้"

โม่บ่อกี้ ยิ้ม เขาสงบนั่งลงก่อนที่จะชี้ไปที่ ยายเอ๋อ ผู้ซึ่งนอนอยู่บนหลังของเขาและพูดว่า"ผู้ดูเเลอู๋ ท่านเห็นใช่หรือไม่ ว่าข้ามีคนป่วยมาด้วยนอกจากนี้ข้ายังรู้เรื่องการกลั่นยาอยู่มากทีเดียวข้าจะนำอุปกรณ์การกลั่นยาของตัวเองมาใช้ข้าหวังว่าท่านจะมอบหมายงานให้ข้าที่สวนสมุนไพรในเวลาเดียวกันข้าต้องการที่จะอยู่ห่างไกลผู้คน และเงียบสงบสักหน่อยเพื่อที่จะอาศัยอยู่ต่อไปแน่นอนข้าต้องการอยู่คนเดียว"

โม่บ่อกี้ หัวเราะอยุ่ในใจดูเหมือนว่ามีคนคิดว่าเขาเป็นคนยิงใหญ่ ศิษย์รับใช้ที่ต่ำต้อยคนไหนกล้าที่จะเรียกร้องมากมายขนาดนี้จริงๆแล้วมันเป็นเรื่องปกติสำหรับศิษย์บริการที่จะพักอยู่คนเดียวแต่เขาก็อยากจะเลือกว่าเขาต้องการพักที่ไหน และ เขายังต้องการที่จะเลือกงานที่เขาจะได้รับ

โม่บ่อกี้ ไม่รอคำตอบจาก อู๋ไค เขาจึงหยิบกระเป๋าหนัง มาไว้ข้างหน้าของ อู๋ไค และพูดว่า"ผู้ดูแลอู๋ นี่เป็นไข่เสือดาวของเสือดาวทะเลมีปีกข้ารู้สึกขอบคุณ ผู้ดูแลอู๋ เป็นอย่างมากที่ท่านยอมรับคำร้องขอของข้า ดังนั้นผู้ดูแลอู๋สามารถนำไข่ของ เสือดาวทะเลมีปีกนี้ไปได้ เพื่อแสดงถึงความขอบคุณของข้า"

โมวูจิมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการพูดคำเหล่านั้นแต่เพื่อที่จะมีฐานะที่เหมาะสมเขาจำเป็นต้องประนีประนอม เมื่อคนขาดความสามารถพวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการประนีประนอมทุกรูปแบบ โม่บ่อกี้ มีประสบการณ์อย่างลึกซึ้งในบทเรียนเรื่องนี้บนโลก

"เสือดาวทะเลมีปีก" อู๋ไคตั้งใจจะล้อเลียน โม่บ่อกี้ แต่เขาต้องกลืนคำพูดของเตัวเองทันทีเมื่อเขาหยิบกระเป๋าหนังมาแล้วเปิดออก

แค่ไม่นาน ดวงตาของ อู๋ไค ก็เป็นประกาย ใช่แล้ว มันเป็นไข่ของเสือดาวทะเลมีปีกจริงๆ และเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงชีวิตภายในไข่

ไข่เสือดาวทะเลมีปีกมีคุณค่ามหาศาลเพียงแค่เสือดาวทะเลมีปีกก็ยังหายากมากหากไม่พบเสือดาวทะเลมีปีกยิ่งไม่ต้องพูดถึงไข่ เมื่อมีไข่ของเสือดาวทะเลปีกนั่นหมายความว่าเขาจะมีสัตว์เลี้ยงเป็นสัตว์อสูรที่บินได้ แม้เขาจะไม่ได้ใช้สัตว์อสูรก็ตามแต่มันก็ยังสามารถขายได้ไข่เสือดาวทะเลปีกนี้น่าสนใจมากสำหรับอู๋ไค

"น้องชาย...ข้าควรจะเรียกเจ้าว่าอย่างไร" จนถึงตอนนี้ อู๋ไค ก็ยังไม่จักชื่อของ โม่บ่อกี้ ด้วยซ้ำไป

"บ่อกี้" โม่บ่อกี้ไม่ต้องการพูดคุยกับ อู๋ไค ดังนั้นเขาจึงตอบสั้นๆและรัดกุม

อู๋ไค ถือกระเป๋าหนังไว้แน่นหัวเราะแล้วพูดว่า "คนที่ศิษย์น้องฉินแนะนำก็เหมือนเป็นเพื่อนของข้า มีงานให้ทำที่สวนสมุนไพร แต่ข้าไม่แนะนำให้พี่โม่ทำงานที่สมุนไพร เพราะงานที่นั่นแทจะไม่มีเวลาว่างเอาเสียเลย"

"ผู้ดูแลอู๋เพื่อนของข้าที่อยู่ที่นี่ป่วยหนักมาก ข้าอยากจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยากลั่นและโอสถทิพย์" โม่บ่อกี้พูด
อู๋ไค ยิ้มและกระซิบว่า"น้องโม่ ถ้าเจ้าต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับยาทำไมไม่ทำงานที่ ร้านขายยา ล่ะ"

"ร้านขายโอสถ" โม่บ่อกี้ถามอย่างงงๆ เขาไม่เข้าใจจริงๆ

อู๋ไค มองโม่บ่อกี้ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "ร้านขายยา คือที่ที่คนของนิกายเราไปทำงานกลั่นโอสถทิพย์อยู่ เมื่อพวกเขาต้องการส่วนผสมของยาพวกเขาจะไม่มีส่วนผสมของยาเหล่านั้น พวกเขาจะต้องเรียกหา นักวิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ พวกเขาไม่ได้กลั่นยาทุกวัน พวกเขาเปิดเตาปรุงยาเพียงเดือนละครั้งเท่านั้นหากท่านเป็น นักวิ่ง ที่นั่น ท่านจะมีเวลาว่างมากมายและท่านยังมีโอกาสได้เรียนรู้เรื่องโอสถด้วย"

โม่บ่อกี้ ดีใจมากไข่ของเสือดาวทะเลมีปีกที่ให้ไปคุ้มค่ามากตำแหน่งนี้ช่างเหมาะเจาะพอดิบพอดีสำหรับเขาเหลือเกิน
"ผู้ดูแลอู๋ ข้ารู้สึกขอบท่านจริงๆข้าจะไปที่ร้านขายยา และข้ายังต้องพึ่งพาความช่วยเหลือของ ผู้ดูแลอู๋ อีกมากในวันข้างหน้า" โม่บ่อกี้รู้สึกขอบคุณอย่างมากจริงๆ เมื่อพูดออกมา

อูู๋ไค โบกมือแล้วบอกว่า"ไม่ต้องห่วงเลยข้าจะช่วยท่านเรื่องการเตรียมที่พักอาศัยของท่าน แน่ใจได้ว่ามันจะเงียบสงบต้องมีที่ไหนสักแห่งที่ท่านจะอาศัยอยู่คนเดียวได้ นอกจากนี้ข้าจะจัดให้ท่านไปทำงานที่ร้านขายยาที่สิบเก้า มีคนน้อยมากที่ร้านขายยานั่น"

//////////////////////////////////////////////////////////

แมวอ้วน : เสร็จแล้วว้อยยย…..
          ไก่ในตำนาน : คร่อกก……..
          แมวอ้วน : เอ่อ เที่ยงคืนกว่า …. มันก็สมควรหลับแหละนะ